Page 131 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี
P. 131

4-13


                                                ใสปุยเคมีตามคาวิเคราะหดิน ควรเปนปุยเคมีที่ละลายชา แบงใส

               ครั้งละนอยๆ ใสในขณะที่ดินมีความชื้นเหมาะสม และควรใชรวมกับปุยอินทรีย
                                      (2.1.2.3)  ดินเปรี้ยวจัด
                                                เก็บตัวอยางดินวิเคราะห วัดคาความเปนกรดเปนดางของดิน (pH)

               ดินเปนกรดรุนแรงมากหรือนอย หาคาความตองการปูนของดิน วิเคราะหปริมาณธาตุอาหาร ไนโตรเจน
               ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เพื่อนําไปหาอัตราปุยที่ตองใช

                                                ปรับปรุงแกไขความเปนกรดของดินดวยวัสดุปูนโดโลไมต อัตราตาม
               ความตองการปูนของดิน หรือปริมาณ 2  ตันตอไร เพื่อปรับคา pH  ใหอยูในชวงที่เหมาะสม โดยหวานปูน

               ทั่วพื้นที่แปลงปลูก หรือปรับปรุงเฉพาะหลุมปลูก (3-5  กิโลกรัมตอหลุม) สับคลุกเคลาปูนกับดิน รดน้ําพอชุม
               หมักทิ้งไวประมาณ 20 วัน ยอยดินแลวปลูกพืชตระกูลถั่ว (ถั่วพุม ถั่วพรา) เพื่อสับกลบเปนปุยพืชสด

               ........                         ปรับปรุงเนื้อดินใหรวนซุย ระบายน้ําไดดี โดยใสปุยหมัก ทุกปๆ ละ
               25-50 กิโลกรัม รอบแนวทรงพุม
                                      (2.1.2.4)  ดินเค็มชายทะเล

                               ..............   การลางดิน สามารถทําได โดยการนําน้ําจืดเขามาชะลางเกลือ
               แลวระบายเกลือออกไป ในกรณีที่ดินมีเกลือโซเดียมสูงๆ ควรใชยิปซัมรวมในการลางดิน.............

                               .                ลดระดับน้ําใตดิน โดยวิธีระบายออกหรือสูบออก.การใชวัสดุอินทรีย
               ปรับปรุงดิน เชน ปุยหมัก ปุยคอก ปุยพืชสด
                                      (2.1.2.5)  ดินบนพื้นที่สูงชัน ความลาดชัน 20 - 35 เปอรเซ็นต

                                                นําหลักการอนุรักษดินและน้ําเขามาปฏิบัติในพื้นที่อยางเขมขน
               โดยทําคันคูรอบเขา หรือคันดินรับน้ํารอบเขา เพื่อระบายน้ํา ไมควรมีการไถพรวนในพื้นที่ ควรใชวิธีปลูก

               พืชแซมหรือพืชคลุมดินแถวทุเรียน เงาะ มังคุด แบบไมไถพรวน และใชปุยหมักบํารุงดิน
                                (2.2)  เขตปลูกมะพราว เนื้อที่ 118,240  ไร หรือรอยละ 1.47 ของเนื้อที่จังหวัด

               สุราษฎรธานี อยูในเขตเกษตรกรรมอาศัยน้ําฝน แบงเขตปลูกมะพราวออกเปน 2 เขต คือ
                                      (2.2.1)  เขตปลูกมะพราวที่มีความเหมาะสมปานกลาง  เนื้อที่ 48,195  ไร

               หรือรอยละ 0.60 ของเนื้อที่จังหวัดสุราษฎรธานี ลักษณะดิน เปนดินรวน ดินรวนปนทราย ดินรวนปน
               ทรายแปง ดินเหนียว ดินรวนเหนียว ดินรวนเหนียวปนทราย ดินรวนเหนียวปนทรายแปง ดินลึกปานกลาง
               ถึงลึกมาก การระบายน้ําดีปานกลางถึงดี สภาพพื้นที่ราบเรียบถึงลูกคลื่นลอนชัน  ความลาดชัน 0 - 12

               เปอรเซ็นต ความอุดมสมบูรณของดินต่ําถึงปานกลาง
                                      การจัดการ

                                      (2.2.1.1)  ใชเทคโนโลยีลดตนทุนการผลิตและลดผลกระทบสิ่งแวดลอม
               โดยการปรับปรุงบํารุงดิน เพื่อฟนฟูความอุดมสมบูรณของดิน ใหมีธาตุอาหารอยางเพียงพอกับมะพราว

               เพิ่มอินทรียวัตถุใหกับดินอยางตอเนื่อง ปองกันและหลีกเลี่ยงการกอมวลพิษใหกับสิ่งแวดลอม
               โดยการลดใชสารเคมี ดังนี้

                                                สงเสริมการใชปุยอยางมีประสิทธิภาพ โดยผสมปุยใชเอง ใสปุย
               ใหถูกตองกับชวงเวลาการเจริญเติบโตของมะพราว  เพื่อลดการสูญเสียปุยหรือเกินความตองการของมะพราว
   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136