Page 51 - pineapple
P. 51
2-41
อย่างไรก็ตามการรับซื้อผลผลิตสับปะรดสดของโรงงานแปรรูปขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาลผลิต
ในช่วงที่สับปะรดมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากจนเกิดการกระจุกตัวของผลผลิตและเกินความต้องการของ
โรงงานแปรรูปซึ่งโรงงานจะกําหนดวิธีการรับซื้อสับปะรดในแต่ละวัน หรือกําหนดโควตาการรับซื้อผลผลิตจาก
เกษตรกรและพ่อค้าคนกลางที่แตกต่างออกไป นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบคุณภาพผลผลิตที่เข้มงวดเกษตรกรที่
ซื้อขายแบบตลาดเสรีจะประสบปัญหามากโดยเฉพาะบางปีจะจําหน่ายผลผลิตได้ในราคาต่ําหรืออาจจําหน่ายไม่ได้
บางส่วน ในขณะที่เกษตรกรที่ซื้อขายแบบตลาดข้อตกลงค่อนข้างจะได้เปรียบ เพราะทางโรงงานจะปฏิบัติตาม
สัญญาแม้ว่าราคาอาจจะต่ําแต่ก็ไม่ถึงกับขาดทุน เพราะสามารถจําหน่ายผลผลิตได้ทั้งหมด สําหรับในช่วงที่
ผลผลิตสับปะรดออกสู่ตลาดน้อยหรือขาดแคลน โรงงานแปรรูปจะใช้วิธีรับซื้อโดยเน้นให้ได้ผลผลิตมากที่สุด เพื่อ
ป้อนเข้าสู่ระบบการผลิตในโรงงาน ราคาสับปะรดจึงค่อนข้างสูง นอกจากนี้การตรวจสอบคุณภาพผลผลิตสับปะรด
จะไม่เคร่งครัดเหมือนช่วงที่มีผลผลิตมาก
การจัดหาวัตถุดิบสับปะรดสดของโรงงานแปรรูปสับปะรด มี 3 วิธี (สํานักวิจัย
เศรษฐกิจการเกษตร สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร)
1) โรงงานดําเนินการผลิตสับปะรดสดเอง โดยมีพื้นที่เพาะปลูกสับปะรดเป็นของตัวเอง
หรือเช่าพื้นที่ปลูก เพื่อบรรเทาปัญหาหากผลผลิตสับปะรดขาดแคลน และเพื่อให้ได้สับปะรดที่มีคุณภาพตามที่
ต้องการ อย่างไรก็ตามวิธีการนี้เป็นการเพิ่มภาระและต้นทุนการผลิตให้กับโรงงาน
2) โรงงานรับซื้อผลผลิตสับปะรดสดจากเกษตรกรโดยตรงหรือรับซื้อจากพ่อค้าคนกลาง
(ระบบการซื้อขายแบบเสรี) โดยเป็นการซื้อจากเกษตรกรที่นําผลผลิตสับปะรดมาจําหน่ายหน้าโรงงานหรือเข้าไป
รับซื้อถึงไร่ มีการกําหนดราคารับซื้อในแต่ละวันหน้าโรงงานซึ่งถูกกําหนดโดยกลไกตลาด วิธีนี้ค่อนข้างจะสะดวก
ทั้งเกษตรกรและโรงงาน เนื่องจากโรงงานไม่ต้องรับผิดชอบและมีเงื่อนไขในการรับซื้อมากนัก แต่ผลผลิตที่ได้
จะต้องมีการคัดคุณภาพอย่างละเอียดเพื่อให้ได้คุณภาพตามที่ต้องการ ทั้งนี้โรงงานจะกําหนดมาตรฐานสับปะรดที่
จะรับซื้อ
3) โรงงานทําสัญญากับเกษตรกร (Contract Farming) โดยจะทําสัญญากับเกษตรกรราย
ใหญ่ กลุ่มเกษตรกรหรือเกษตรกรกลุ่มใหญ่ผ่านสหกรณ์เพื่อสะดวกในการบังคับสัญญาและลดต้นทุนการทํา
ธุรกรรม โดยจะทําสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในแต่ละปีในราคาและปริมาณที่กําหนดไว้ ซึ่งจะทําให้โรงงานทราบถึง
จํานวนพื้นที่เพาะปลูกสามารถคาดคะเนผลผลิตที่ได้แน่นอนเป็นการป้องกันความเสี่ยงทางด้านความเพียงพอของ
ปริมาณผลผลิตของโรงงาน ลดปัญหาความไม่สม่ําเสมอของปริมาณวัตถุดิบที่ป้อนเข้าสู่โรงงาน และยังเป็นการสร้าง
ความสัมพันธ์อันดีกับเกษตรกรในพื้นที่ โดยโรงงานจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมความรู้ทางด้านวิชาการ
ให้คําแนะนําวิธีการปลูกสับปะรดที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ตรงกับความต้องการและสามารถควบคุมคุณภาพ
ของวัตถุดิบได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้การทําสัญญาในลักษณะนี้เกษตรกรจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของความ
แน่นอนด้านตลาด ขณะที่โรงงานก็สามารถประมาณต้นทุนของสับปะรดได้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามวิธีนี้มักเกิด
ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของคู่สัญญา
เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจสับปะรดโรงงาน กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน