Page 177 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจทานตะวัน
P. 177
ผ-9
2) ระยะปลูกและเตรียมหลุม
ควรทําร่องสําหรับหยอดเมล็ดหรือชักร่อง ให้แต่ละร่องห่างกัน 70-75 เซนติเมตร และใช้ระยะ
ระหว่างหลุมในร่องห่างกัน 30-35 เซนติเมตร ส่วนดินมีความชื้นตํ่าควรใช้ระยะปลูกกว้างขึ้น การยกร่องนี้
เพื่อสะดวกในการให้นํ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกในฤดูแล้งที่ต้องการนํ้ามาก หรือการปลูกโดยใช้
เครื่องหยอดเมล็ดในระยะเดียวกัน
3) การเลือกพันธุ์ (กรมวิชาการเกษตร, 2552)
(1)ผลผลิตสูง คุณภาพดี และตรงตามความต้องการของตลาด
(2)ต้านทานต่อศัตรูพืช
(3)เจริญเติบโตดี เหมาะกับสภาพดินฟ้าอากาศที่ปลูก
4) ฤดูปลูก (ศรีสุดา, ม.ป.ป.)
ฤดูที่เหมาะสมในการปลูกทานตะวันมี 2 ฤดู คือ
(1) ปลายฤดูฝน ปลูกตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคม
(2) ฤดูแล้ง ปลูกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์
5) วิธีการปลูก
หลังจากเตรียมดินแล้ว ควรทําร่องสําหรับหยอดเมล็ด โดยให้แต่ละร่องห่างกัน 70-75
เซนติเมตร และให้หลุมปลูกในร่องห่างกัน 25-30 เซนติเมตร หยอดหลุมละ 2 เมล็ด แล้วกลบดิน
โดยให้เมล็ดอยู่ลึก 5-8 เซนติเมตร เมื่อพืชงอกได้ 10 วัน หรือมีใบจริง 2-4 คู่ ให้ถอนแยกเหลือไว้เฉพาะ
ต้นที่แข็งแรงเพียงหลุมละ 1 ต้น และถ้าหากดินมีความชื้นตํ่าควรใช้ระยะปลูกกว้างขึ้น การยกร่องนี้
เพื่อเป็นการสะดวกในการให้นํ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกในฤดูแล้งที่ต้องการนํ้ามาก ส่วนการปลูก
ในฤดูฝน ถ้าเป็นดินที่มีการระบายนํ้าดีก็ไม่จําเป็นต้องยกร่องและใช้ระยะปลูกเช่นเดียวกับยกร่อง
การปลูกวิธีนี้ ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ลูกผสมจํานวน 0.7 กิโลกรัมต่อไร่ และปลูกตามระยะที่แนะนํานี้จะได้
จํานวนต้น 6,400-8,500 ต้นต่อไร่เซนติเมตร
7. การปฏิบัติดูแลรักษา (ศรีสุดา, ม.ป.ป.)
1) การให้นํ้า
นํ้า เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลกระทบต่อการผลิตทานตะวัน หากความชื้นในดินมีน้อยจะทําให้
ผลผลิตลดลง จึงควรมีการให้นํ้าทานตะวันอย่างเหมาะสม ดังนี้
- ครั้งที่ 1 หลังจากปลูกเสร็จแล้วรีบให้นํ้าทันที หรือควรทําการปลูกทันทีหลังฝนตก
เพื่อใช้ความชื้นในดินให้เต็มที่โดยไม่ต้องรดนํ้า
- ครั้งที่ 2 ระยะมีใบจริง 2 คู่ หรือประมาณ 10-15 วัน หลังงอก
เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจทานตะวัน สํานักสํารวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน