Page 27 - การใช้ข้อมูลสำรวจระยะไกลเพื่อศึกษาความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่เสี่ยง การเป็นดินกรดและดินเค็ม ภาคกลางของประเทศไทย
P. 27
21
ระดับดินอาจจะดูดน้ าออกมาจากรากพืชได้ ท าให้พืชเหี่ยวแห้งและตายในที่สุด (ตารางที่ 8) ดังนั้นคุณสมบัติ
ประการนี้จึงเป็นคุณสมบัติอีกประการหนึ่งที่ห้องวิเคราะห์ดิน จะท าการตรวจสอบและแจ้งผลให้ทราบเมื่อ
ส่งตัวอย่างดินไปวิเคราะห์
ตารางที่ 8 การแปลผลคาการน าไฟฟ้าของดินอิ่มตัวดวยน้ า ที่ 25องศาเซลเซียสและอิทธิพลของระดับ
ความเค็มของดินที่มีต่อการเจริญเติบโตของพืช
ค่า EC (dS/m) ระดับความเค็ม ความสัมพันธ์กับพืช
0 -2 ไม่เค็ม ไม่มีผลกระทบต่อการเจิญเติบโตของพืช
อาจมีผลกระทบกระเทือนต่อผลผลิตของพืชที่
2 - 4 เค็มน้อยมาก
sensitive ต่อความเค็ม
4 - 8 เค็มปานกลาง เป็นอุปสรรคต่อพืชหลายชนิด
เป็นอุปสรรคต่อพืชส่วนมาก เฉพาะพืชทนเค็มที่
8 - 16 เค็มจัด
เติบโตได้
เป็นอันตรายต่อพืชทุกชนิด ยกเว้นพืชบางชนิด
>16 เค็มจัดมาก
เช่นหญ้าทนเค็ม เป็นต้น
ที่มา : Beck, 1999; Bower and Wilcox, 1965; Jackson, 1958 อ้างอิงใน ส านักวิทยาศาสตร์เพื่อการ
พัฒนาที่ดิน (2547)
การวัดค่าการน าไฟฟ้าของดิน (ส านักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน, 2547) ในดินมีเกลือที่
ละลายได้อยู่หลายชนิด บางชนิดละลายได้ดี เชน NaCl, CaCl 2 . NaHCO3, Na2SO4 เป็นต้น บางชนิด
ละลายได้เพียงบางส่วนเช่น CaSO4 การวัดค่าการน าไฟฟ้าของดิน จึงเป็นการประเมินปริมาณเกลือที่
ละลายได้ของดิน และค่าที่ได้ยังให้เป็นตัวก าหนดระดับความเค็มของดินด้วย การวัดค่าการน าไฟฟ้าของ
ดินใช้วิธีวัดในสารละลายของดินกับน้ า อัตราส่วนระหวางดินต่อน้ าอาจแตกต่างกัน แล้วแต่ละ
ห้องปฏิบัติการแต่ละแห่ง แต่ที่นิยมใช้เป็น 1:5 หรือ เรียกว่า EC 1:5 หรือใช้วัดเมื่อท าให้ดินเป็น saturated
paste แล้ววัดในสารละลายที่สกัดได้เรียกว่า EC extract (ECe) จะใช้สัดส่วนของดินต่อน้ าเท่าใดก็ตามจะต้อง
ระบุสัดส่วนนั้นไว้ด้วยทุกครั้งที่รายงานผล
ค่า ECe และ EC 1:5 ของตัวอย่างเดียวกันจะให้ค่าไม่เท่ากัน เนื่องจากปริมาณเกลือที่ละลาย
ออกมาจากดินจะไม่เท่ากัน ในการวัดค่าการน าไฟฟ้าของดิน ในอัตราส่วน ดิน:น้ า 1:5 ปริมาณน้ าที่มาก
อาจละลายเกลือออกมาได้เกือบหมด แต่ ECe จะใช้น้ าน้อยกว่าวิธี EC 1:5 ท าใหมีเกลือละลายออกมาได้น้อย
ดังนั้น ค่า EC 1:5 เมื่อเทียบกันเป็นความเข้มข้นของเกลือที่ละลายได้ในดินจะมากกว่าค่าที่ได้จาก ECe
ค่า ECe เป็นค่าที่ได้เมื่อสภาวะของดินต่อน้ าใกล้เคียงกับสภาพการอุ้มน้ าที่ความจุสนาม
(field capacity) ซึ่งต่างกับค่า EC 1:5 ซึ่งใช้น้ ามากกว่าหลายเท่า ท าใหเปรียบเทียบกับสภาพของดินตาม
ธรรมชาติไม่ได้ ดังนั้น ค่า EC e จึงมีความสัมพันธ์กับการเจริญเติบโตของพืชมากกว่าค่า EC 1:5