Page 123 - แผนการใช้ที่ดินพืชบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของประเทศไทย 2566
P. 123

3-73





                           ในกรณีที่นายทะเบียนมีคำสั่งยกคำขอขึ้นทะเบียน ผูขอขึ้นทะเบียนมีสิทธิอุทธรณคำสั่งของ

                                                                                              ึ้
                  นายทะเบียนตอคณะกรรมการ และหากยังไมเห็นดวยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ผูขอขนทะเบียน
                  ก็มีสิทธินำคดีขึ้นไปสูศาลไดภายในระยะเวลาที่กำหนด
                           ในกรณีที่คำขอขึ้นทะเบียนเปนไปตามหลักเกณฑใหนายทะเบียนมีคำสั่งประกาศ

                                                               
                  โฆษณาการรับขึ้นทะเบียนและภายในเกาสิบวันนับแตวันประกาศโฆษณา บุคคลผูมีสวนไดเสียอาจยื่น
                  คำคัดคานการรับขึ้นทะเบียนสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรได ซึ่งเมื่อมีการคัดคานผูขอขึ้นทะเบียนตองยื่น
                             ั
                                                                                   ั
                                                                      ิ
                                                ี่
                  คำโตแยงคำคดคานนั้นภายในเวลาทกำหนด เมื่อนายทะเบียนพจารณาคำรองคดคานและคำโตแยงแลว
                  ก็จะมีคำวินิจฉัยซึ่งสามารถอุทธรณคำวินิจฉัยของนายทะเบียนตอคณะกรรมการไดและหากไมเห็นดวย
                  กับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการก็สามารถนำคดีไปสูศาลได
                           กรณีที่ไมมีการคัดคานหรือมการคดคานแตกระบวนการสิ้นสุดแลวใหนายทะเบียนขึ้นทะเบียน
                                                      ั
                                                  ี
                                          
                  สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรและใหการคุมครองสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรมีผลตั้งแตวันยื่นคำขอจดทะเบียน
                           เมื่อนายทะเบียนไดรับขึ้นทะเบียนสิ่งบงชี้ทางภูมศาสตรแลว หากปรากฏหลักฐานภายหลังวา
                                                                  ิ
                      ึ
                      ้
                                                                                ี
                                
                  การขนทะเบียนไดดำเนินการไปโดยมชอบดวยกฎหมายหรือโดยอำพรางหรือมรายการผิดจากความเปนจริง
                                                ิ
                                                     
                  ผูมีสวนไดเสียหรือพนักงานเจาหนาที่อาจขอใหนายทะเบียนสงเรื่องใหคณะกรรมการมคำวินิจฉัยใหแกไข
                                                                                        ี
                                                                                                     
                                               ี
                                                                                           ึ
                  หรือเพิกถอนทะเบียนได ในกรณีท่ปรากฏวาสถานการณเปลี่ยนแปลงไปภายหลังการข้นทะเบียนและ
                             ้
                  ทำใหสิ่งบงชีทางภูมิศาสตรมีลักษณะตองหามหรือทำใหรายการเปลี่ยนแปลงไปจากที่ลงไวในทะเบียน
                                                  
                  ผูมีสวนไดเสียหรือพนักงานเจาหนาที่อาจขอใหนายทะเบียนสงเรื่องใหคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยแกไข
                  หรือเพิกถอนทะเบียนไดและถาไมเห็นดวยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการผูมีสวนไดเสียก็มีสิทธินำคด ี
                  ไปสูศาลได
                           เมื่อมีการขึ้นทะเบียนสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรสำหรับสินคาใดแลว ผูผลิตสินคาซึ่งอยูใน
                  แหลงภูมิศาสตรของสินคาดังกลาวหรือผูประกอบการคาเกี่ยวกับสินคานั้นมีสิทธิใชสิ่งบงชี้ทางภูมศาสตร
                                                                                                 ิ
                  ที่ขึ้นทะเบียนกับสินคาที่ระบุไว ตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนด หากไมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดให
                  นายทะเบียนแจงใหบุคคลนั้นปฏิบัติตามเงื่อนไข หากยังไมปฏิบัติตามเง่อนไขโดยไมมีเหตุอนสมควร
                                                                                                ั
                                                                               ื
                                                                                                 ิ
                  นายทะเบียนอาจมีคำสั่งเปนหนังสือระงับการใชสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรของบุคคลนั้นเปนเวลาไมเกนสองป
                                                                                               
                                                        ่
                  นับแตไดรับแจงคำสั่ง และผูถูกระงับการใชสิงบงชี้ทางภูมิศาสตรมีสิทธิอุทธรณคำสั่งของนายทะเบียน
                  ตอคณะกรรมการได และหากยังไมเห็นดวยก็มีสิทธินำคดีไปสูศาลได
                           ไดมีการกำหนดวาการกระทำดังตอไปนี้เปนการกระทำโดยมิชอบซงจะมีบทลงโทษเอาไว ไดแก  
                                                                               ึ่
                                                                                          ิ
                                                                                         ี่
                             1) การใชสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรเพื่อแสดงหรือทำใหผูอื่นหลงเชื่อวาสินคาทมไดมาจากแหลง
                  ภูมิศาสตรที่ระบุไวเปนสินคาที่มาจากแหลงภูมิศาสตรดังกลาว
                                           ้
                             2) การใชสิ่งบงชีทางภูมิศาสตรที่ทำใหเกิดความสับสนหรือหลงผิดในแหลงภูมิศาสตรของ
                  สินคาและในคุณภาพ ชื่อเสียงหรือคุณลักษณะอื่นของสินคานั้น เพื่อใหเกิดความเสียหายแก  
                  ผูประกอบการรายนั้น
                   
                           รัฐมนตรีอาจกำหนดไวในกฎกระทรวงวาใหสินคาประเภทใดเปนสินคาเฉพาะอยาง และการใช
                                                                                                   ิ
                                                       ิ
                  สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรกบสินคาที่มไดมีแหลงภูมศาสตรที่ระบุไวในคำขอขนทะเบียนเปนการกระทำโดยมชอบ
                                                                           ึ้
                                    ั
                                             ิ
                                                                                                      ึ
                  แมวาผูใชจะไดระบุแหลงภูมิศาสตรอันแทจริงของสินคานั้นไวดวยหรือกระทำการใดที่แสดงใหทราบถง
                                                                 ี
                                                                                  ี
                  แหลงภูมิศาสตรอันแทจริงของสินคานั้นก็ตาม ในกรณีท่สินคาเฉพาะอยางท่กำหนดในกฎกระทรวงมี
                                         
                  แผนการใชที่ดินพืชบงชี้ทางภูมิศาสตร (GI) ของประเทศไทย           กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน
   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128