Page 135 - Plan GI
P. 135

3-87





                  ใชสืบเนื่องตลอดมาจนถึงวันยื่นคำขอขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ไดกำหนดบุคคลหรือหนวยงานที่มีสิทธิ

                  ขอขึ้นทะเบียนสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตร ดังนี้
                             1)  สวนราชการ หนวยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องคกรปกครองสวนทองถิ่นหรือองคกรอื่น
                  ของรัฐที่เปนนิติบุคคลซึ่งมีเขตรับผิดชอบครอบคลุมบริเวณแหลงภูมิศาสตรของสินคา

                             2)  บุคคลธรรมดา กลุมบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการคาเกี่ยวของกับสินคาที่ใช
                  สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรและมีถิ่นที่อยูในแหลงภูมิศาสตรของสินคา
                             3)  กลุมผูบริโภคหรือองคกรผูบริโภคสินคาที่ใชสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตร

                           คำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรจะตองมีรายละเอียดเกี่ยวกับคุณภาพ ชื่อเสียงหรือ
                  คุณลักษณะอื่นของสินคา แหลงภูมิศาสตรและรายละเอียดอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวงและเมื่อพนักงาน

                  เจาหนาที่ตรวจสอบวาเปนไปตามหลักเกณฑที่กำหนดไว ใหทำรายงานผลการตรวจสอบเสนอความเห็น
                  ตอนายทะเบียนซึ่งในการพิจารณาคำขอของพนักงานเจาหนาที่นี้อาจมีการเรียกใหผูขอขึ้นทะเบียนหรือ
                  ผูที่เกี่ยวของมาใหถอยคำชี้แจงหรือแสดงหลักฐานเพิ่มเติมและอาจสงเรื่องใหผูเชี่ยวชาญพิจารณาให
                  ความเห็นประกอบดวยก็ได

                           ในกรณีที่นายทะเบียนมีคำสั่งยกคำขอขึ้นทะเบียน ผูขอขึ้นทะเบียนมีสิทธิอุทธรณคำสั่งของ
                  นายทะเบียนตอคณะกรรมการ และหากยังไมเห็นดวยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ผูขอขึ้นทะเบียน
                  ก็มีสิทธินำคดีขึ้นไปสูศาลไดภายในระยะเวลาที่กำหนด
                           ในกรณีที่คำขอขึ้นทะเบียนเปนไปตามหลักเกณฑใหนายทะเบียนมีคำสั่งประกาศ

                  โฆษณาการรับขึ้นทะเบียนและภายในเกาสิบวันนับแตวันประกาศโฆษณา บุคคลผูมีสวนไดเสียอาจยื่น
                  คำคัดคานการรับขึ้นทะเบียนสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรได ซึ่งเมื่อมีการคัดคานผูขอขึ้นทะเบียนตองยื่น
                  คำโตแยงคำคัดคานนั้นภายในเวลาที่กำหนด เมื่อนายทะเบียนพิจารณาคำรองคัดคานและคำโตแยงแลว
                  ก็จะมีคำวินิจฉัยซึ่งสามารถอุทธรณคำวินิจฉัยของนายทะเบียนตอคณะกรรมการไดและหากไมเห็นดวย

                  กับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการก็สามารถนำคดีไปสูศาลได
                           กรณีที่ไมมีการคัดคานหรือมีการคัดคานแตกระบวนการสิ้นสุดแลวใหนายทะเบียนขึ้นทะเบียน
                  สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรและใหการคุมครองสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรมีผลตั้งแตวันยื่นคำขอจดทะเบียน

                           เมื่อนายทะเบียนไดรับขึ้นทะเบียนสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรแลว หากปรากฏหลักฐานภายหลังวา
                  การขึ้นทะเบียนไดดำเนินการไปโดยมิชอบดวยกฎหมายหรือโดยอำพรางหรือมีรายการผิดจากความเปนจริง
                  ผูมีสวนไดเสียหรือพนักงานเจาหนาที่อาจขอใหนายทะเบียนสงเรื่องใหคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยใหแกไข
                  หรือเพิกถอนทะเบียนได ในกรณีที่ปรากฏวาสถานการณเปลี่ยนแปลงไปภายหลังการขึ้นทะเบียนและ
                  ทำใหสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรมีลักษณะตองหามหรือทำใหรายการเปลี่ยนแปลงไปจากที่ลงไวในทะเบียน

                  ผูมีสวนไดเสียหรือพนักงานเจาหนาที่อาจขอใหนายทะเบียนสงเรื่องใหคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยแกไข
                  หรือเพิกถอนทะเบียนไดและถาไมเห็นดวยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการผูมีสวนไดเสียก็มีสิทธินำคดี
                  ไปสูศาลได

                           เมื่อมีการขึ้นทะเบียนสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรสำหรับสินคาใดแลว ผูผลิตสินคาซึ่งอยูใน
                  แหลงภูมิศาสตรของสินคาดังกลาวหรือผูประกอบการคาเกี่ยวกับสินคานั้นมีสิทธิใชสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตร
                  ที่ขึ้นทะเบียนกับสินคาที่ระบุไว ตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนด หากไมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดให
                  นายทะเบียนแจงใหบุคคลนั้นปฏิบัติตามเงื่อนไข หากยังไมปฏิบัติตามเงื่อนไขโดยไมมีเหตุอันสมควร





                  โครงการแผนการใชที่ดินพืชบงชี้ทางภูมิศาสตร (GI) ของประเทศไทย      กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน
   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140