Page 133 - รายงานสำรวจทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับท้องถิ่น อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
P. 133

4-13






                                ื้
                                                                                                  ู
                                                                                                   ั
                  บริเวณโดยรอบพนที่ชุมน้ำสวนใหญเกษตรกรจะทำการเกษตรโดยการปลูกพืชและเลี้ยงสัตวควบคกนไป
                  โดยสัตวที่นิยมเลี้ยง ไดแก โคเนื้อ และโคนม วัตถุประสงคของการเลี้ยงที่สำคัญคือเลี้ยงไวเพื่อจำหนาย
                                    ี
                  ซึ่งมีความจำเปนตองมพื้นที่ในเขตนี้เพื่อเปนแหลงอาหารของสัตวดังกลาว
                             ขอเสนอแนะในการใชพื้นท  ี่

                             -  ควรมีการปรับปรุงบำรุงดินในเขตที่เปนทุงหญาเลี้ยงสัตวโดยการใชปุยอินทรีย รวมกบ
                                                                                                      ั
                  ปุยพืชสดประเภทพืชตระกลถั่วเพอปรับโครงสรางของดิน
                                       ู
                                            ื่
                                                              ี
                             -  สงเสริมการปลูกหญาพันธุสงเสริมท่มีธาตอาหารที่สำคัญตอสัตวสูง และดูแลรักษางาย
                                                 
                                                                  ุ
                                                                                                     
                  เชน พันธุเนเปยร รูซี่ และกินนีสีมวง เปนตน
                             -  ดำเนินการพัฒนาแหลงน้ำขนาดเล็กในพื้นที่เขตนี้ รวมทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพ
                  แหลงน้ำตามธรรมชาติ เชน เหมือง ฝาย ลำคลองสาธารณประโยชน ใหมีการกักเก็บน้ำไดดีขึ้น
                        4.2.3 เขตชุมชนและสิ่งปลูกสราง (หนวยแผนที่ B3)
                             เขตชุมชนและสิ่งปลูกสราง ประกอบดวยเขตชุมชน (หนวยแผนที่ B31) อยูภายใตเขตหลัก

                  มเนื้อที่ 9,204 ไร หรือรอยละ 0.34 ของพื้นที่ศึกษา ประกอบดวยหมูบานบนพนที่ราบ ตัวเมืองและยาน
                                                                                  ื้
                   ี
                  การคา สถานที่ราชการ และสถาบันตาง ๆ สถานที่พักผอนหยอนใจ รีสอรท โรงแรม เกสตเฮาส โรงงาน
                  อุตสาหกรรม เปนตน เขตนี้รวมพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีพื้นที่เพียง 34 ไร ไวดวย เนื่องจาก
                  สภาพแวดลอมโดยรอบของพื้นที่ชุมน้ำไมเหมาะสมที่จะขยายเปนเขตอุตสาหกรรม

                             ขอเสนอแนะในการใชพื้นท  ี่
                             องคกรปกครองสวนทองถิ่นในพื้นทรอบ ๆ พื้นที่ชุมน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาต ิ
                                                            ่
                                                            ี
                                                                                                     ั
                  อุทยานแหงชาติแกงกระจาน ควรเรงศึกษาปญหาความตองการของทองถิ่นและจัดลำดับความสำคญ
                             ื่
                                                                 ู
                  ของปญหาเพอกำหนดแนวทางในการเขาพัฒนาไดอยางถกตองตามความตองการของชุมชน ในประเด็น
                  ปญหาบางเรื่องที่เกินขีดความสามารถของทองถิ่น ทางเทศบาลหรือองคการบริหารสวนตำบลควรทำเรื่อง
                  ถึงสวนราชการที่เกี่ยวของโดยตรงเพื่อขอรับการสนับสนุนในการศึกษาปญหา แนวทางการแกไข
                                               ่
                  จัดทำโครงการและงบประมาณเพือการดำเนินการตอไป ควรดูแลควบคุมทางดานมลพิษตาง ๆ เชน
                                                                  ้
                  การบำบัดน้ำเสียหรือขยะจากชุมชน ไมขยายชุมชนไปในพืนที่ที่ไมเหมาะสม นอกจากนี้ตองพิจารณาถง ึ
                  ระบบโครงสรางพืนฐานของชุมชน เชน สาธารณสุขของชุมชน เสนทางคมนาคมขนสง และการจัดสราง
                                 ้
                  โรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชุมน้ำ เปนตน
                                 ี่
                        4.2.4 พื้นทแหลงน้ำ (หนวยแผนที่ B4)
                          พื้นที่แหลงน้ำมีเนื้อที่ 20,316 ไร หรือรอยละ 0.77 ของพื้นที่ศึกษา เขตนี้มีความจำเปนตอ
                                                                                                      
                                                                                                  ้
                  การดำรงชีพของมนุษยไมวาจะเปนทางดานอุปโภค บริโภค และเพื่อเกษตรกรรม พื้นที่ของเขตนี ไดแก  
                                                                              ี่
                                                                                                   ็
                  แหลงน้ำตามธรรมชาติ เชน ลำหวย หนอง คลอง บึง และแหลงน้ำผิวดินทมนุษยสรางขึ้น เชน อางเกบน้ำ
                                                                                               
                  แหลงน้ำขนาดเล็กในไรนา เขตแหลงน้ำนี้เปนเขตที่มีความสำคัญและเชื่อมโยงกับเขตเกษตรกรรมและ
                  เขตชุมชนและสิ่งปลูกสรางเปนอยางยิง เนื่องจากเปนเขตทชุมชนใชประโยชนในการอุปโภคและบริโภค
                                                 ่
                                                                   ี
                                                                   ่
                  ตลอดจนการทำเกษตรกรรม เปนตน มีพื้นที่อยูในเขตปาไมตามกฎหมาย และนอกเขตปาไมตามกฎหมาย
                  สามารถแบงเขตการใชที่ดินออกเปน 2 เขต ไดดังนี้
   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138