Page 27 - รายงานสำรวจทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับท้องถิ่น จังหวัดสกลนคร
P. 27

3-3





                                                                             ่
                                                                             ี
                  องคประกอบ ดังนี้ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ ทรัพยากรทมนุษยสรางขึ้น และทรัพยากร
                                                                                            ี
                  คุณภาพชีวิต (สังคมสิ่งแวดลอม) ซึ่งทรัพยากรเหลานี้อยูรวมกันอยางกลมกลืนเปนลุมน้ำที่มลักษณะและ
                  แสดงบทบาทเฉพาะ จึงมักเรียกลุมน้ำเปนทรัพยากรลุมน้ำ หรือระบบทรัพยากร ประเทศไทยมี 22

                  ลุมน้ำหลัก ดังนี้ (1) ลุมน้ำสาละวิน (2) ลุมน้ำโขงเหนือ (3) ลุมน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ (4) ลุมน้ำชี
                                                    
                  (5) ลุมน้ำมูล (6) ลุมน้ำปง (7) ลุมน้ำวัง (8) ลุมน้ำยม (9) ลุมน้ำนาน (10) ลุมน้ำเจาพระยา (11) ลุมน้ำ

                  สะแกกรัง (12) ลุมน้ำปาสัก (13) ลุมน้ำทาจีน (14) ลุมน้ำแมกลอง (15) ลุมน้ำบางปะกง (16) ลุมน้ำ
                                                                                     ั
                                                                                   ี
                  โตนเลสาบ (17) ลุมน้ำชายฝงทะเลตะวันออก (18) ลุมน้ำเพชรบุรี – ประจวบครีขนธ (19) ลุมน้ำภาคใต
                  ฝงตะวันออกตอนบน (20) ลุมน้ำทะเลสาบสงขลา (21) ลุมน้ำภาคใตฝงตะวันออกตอนลางและ (22) ลุมน้ำ
                  ภาคใตฝงตะวันตก (ฐิติพันธ, 2564)
                             “การจัดการลุมน้ำ” หมายถึง การจัดการใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติทุก ๆ อยาง

                  ภายในพื้นที่ลุมน้ำแบบผสมผสาน โดยเฉพาะทรัพยาการที่ดิน ไดแก พื้นที่ปาไม เกษตรกรรม แหลงน้ำ
                                                        ั
                          ื
                            ี
                                                                                             ุ
                  ชุมชน พ้นท่เมือง ใหมีสัดสวนการกระจายตวท่เหมาะสม มีมาตรการปองกันและควบคมผลกระทบ
                                                          ี
                   ่
                                                                              ี
                                                                      
                                            ู
                                           
                                                                                                 ้
                  ทีอาจจะเกิดจาการใชอยางไมถกวิธี และมีการปรับปรุงหรือฟนฟูสวนท่เสื่อมโทรม ใหลุมน้ำนันยังคง
                  ทำหนาที่สนองตอบตอความตองการทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย โดยเฉพาะทรัพยากรดิน น้ำ ปาไม 
                  ไดอยางยืนยาว สิ่งที่จะบงบอกถึงผลผลสัมฤทธิ์ของการจัดการ ดูจากปริมาณน้ำที่เพียงพอ ชวงเวลา
                  การไหลสม่ำเสมอและคุณภาพดี รวมถึงคุณภาพชีวิตความเปนอยูที่ดีของคนที่อาศัยอยูในพื้นที่ลุมน้ำดวย
                             “การจัดการลุมน้ำอยางมีสวนรวม” หมายถึง การจัดการใชประโยชน
                  ทรัพยากรธรรมชาติทุก ๆ อยาง ภายในพื้นที่ลุมน้ำรวมกันของผูมีสวนไดเสีย ตั้งแตรวมกันกำหนดขอบเขต
                  พื้นที่ลุมน้ำที่ตองการจัดการ รวมกันคิดวิเคราะหสถานการณ รวมกันตัดสินใจกำหนดทศทางการจัดการ
                                                                                         ิ
                  รวมกันลงมือปฏิบัติ รวมกันรับผิดชอบผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้น และรวมกันจัดสรรผลประโยชน
                  อยางทั่วถึงเทาเทียม

                      3.1.5 พื้นที่ชุมน้ำ (Wetlands) หมายถึง ที่ลุม ที่ราบลุม ที่ชื้นแฉะ พรุ แหลงน้ำ ทั้งที่เกิดขึ้นเอง
                  ตามธรรมชาติและที่มนุษยสรางขึ้น ทั้งที่มีน้ำขัง หรือ น้ำทวมอยูถาวรและชั่วครั้งชั่วคราว ทั้งท่เปน
                                                                                                   ี
                                                                                                ี
                                                                              ึ
                                           ี
                                         ั
                  แหลงน้ำนิ่ง และน้ำไหล ท้งท่เปนน้ำจืด น้ำกรอย และน้ำเค็ม รวมไปถงชายฝงทะเล และท่ในทะเล
                  ในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดลงต่ำสุด มีความลึกของระดับน้ำไมเกิน 6 เมตร
                                                                                                      ั
                             พื้นที่ซึ่งมีลักษณะจัดไดวาเปนพื้นที่ชุมน้ำ จึงรวมถึง หวย หนอง คลอง บึง บอ กระพง
                                                                                                      ุ
                  (ตระพัง) บาราย แมน้ำ ลำธาร แคว ละหาน ชานคลอง ฝงน้ำ สบธาร สระ ทะเลสาบ แองลุม กุด ทง
                  กวาน มาบบุง ทาม สนุน แกง น้ำตก หาดหิน หาดกรวด หาดทราย หาดโคลน หาดเลน ชายทะเล
                  ชายฝง ทะเล พืดหินปะการัง แหลงหญาทะเล แหลงสาหรายทะเล คุง อาว ดินดอนสามเหลี่ยม ชองแคบ
                  ชะวากทะเล ตะกาด หนองน้ำกรอย ปาพรุ ปาเลน ปาชายเลน ปาโกงกาง ปาจาก ปาแสม รวมทั้งนาขาว
                  นากุง นาเกลือ บอปลา อางเก็บน้ำ เปนตน ตามอนุสัญญาแรมซาร (Ramsar Convention) หรือ
                  อนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ำ (ในมาตรา 1.1 และมาตรา 2.1 ของอนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ำ)

                             พื้นที่ชุมน้ำ (Wetlands) คือ พื้นที่ซึ่งมีน้ำเปนปจจัยหลักในการกำหนดหรือควบคุม
                  สภาพแวดลอมและลักษณะการดำรงอยูของสิ่งมีชีวิต โดยทั่วไปแลว พื้นที่ชุมน้ำเกิดจากระดับน้ำใตดน
                                                                                                      ิ
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32