Page 28 - รายงานสำรวจทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับท้องถิ่น จังหวัดสกลนคร
P. 28
3-4
ั
(Water Table) ที่มีระดับอยูใกลกับผิวดินมาก สงผลใหปริมาณน้ำเออลนขึ้นมา หรืออาจถูกน้ำทวมขง
ึ
เปนบริเวณกวางดังนั้น ความหมายของพื้นที่ชุมน้ำจึงครอบคลุมถึงทุกพื้นที่ซ่งมีลักษณะทางภูมิประเทศ
เปนที่ราบลุม พื้นที่ชื้นแฉะ หรือเปนแหลงน้ำทมีระดับน้ำเปลี่ยนแปลงไดตลอดเวลา มีการไหลเวียนของน้ำ
ี่
ั
ี
ั
ู
ี
่
้
ื
ี
่
ตามฤดกาล หรืออาจมระดบน้ำขงคงทถาวร รวมไปถึงบริเวณริมชายฝงทะเลและพนทในทะเลบางสวน
ที่มีความลึกหรือระดับน้ำไมเกิน 6 เมตร เมื่อกระแสน้ำลดลงถึงจุดต่ำสุด
3.1.6 พื้นที่ชุมน้ำทางทะเลและชายฝง (Marine and Coastal Wetlands) หมายถึง บริเวณใน
ทะเลและริมชายฝงทะเล ซึ่งเปนพื้นที่ที่ไมอยูภายใตอิทธิพลของกระแสน้ำจากแมน้ำ เชน ทะเลสาบ
น้ำเค็ม (Lagoon) หาดทราย (Beach) และแนวปะการัง (Coral Reef) เปนตน
3.1.7 ปากแมน้ำหรือชวากทะเล (Estuarine) หมายถึง พื้นที่ซึ่งมีแมน้ำและทะเลมาบรรจบกน
ั
ลักษณะของน้ำจึงเปนน้ำกรอย เชน ดินดอนสามเหลี่ยมปากแมน้ำ (Delta) ที่ราบลุมน้ำทวมถึง (Tidal
Marsh) ปาชายเลน (Mangrove Forest) หาดโคลน (Mud Flat) และแหลงหญาทะเล (Seagrass Bed) เปนตน
3.1.8 ทะเลสาบหรือบึง (Lacustrine) หมายถึง แหลงน้ำขนาดใหญที่มีน้ำขังถาวรหรือมีน้ำขง
ั
ตามฤดูกาล อาจมีกระแสน้ำไหลเพียงเล็กนอย เชน ทะเลสาบและบึงตาง ๆ
3.1.9 แมน้ำและแหลงน้ำไหล (Riverine) หมายถึง แมน้ำ ลำธาร ลำหวย และลำคลองที่มีน้ำ
ไหลตลอดทั้งป รวมถึงพื้นที่ราบลุมริมชายฝงแมน้ำตลอดสายและสันทรายแมน้ำ
3.1.10 หนองน้ำ (Palustrine) หมายถึง พื้นที่ซึ่งมีน้ำทวมขังอยูตลอดหรือมีน้ำทวมขังตาม
ฤดูกาล มีความลึกไมเกิน 2 เมตร และมีพืชน้ำปกคลุมมากกวารอยละ 30 ของพื้นผิวน้ำ เชน ที่ลุมชืน
้
แฉะ (Marsh) พรุ (Bog) และมาบ (Swamp) เปนตน
ี่
3.1.11 พื้นที่ชุมน้ำทมนุษยสรางขึ้น (Human-made Wetlands) เชน อางเก็บน้ำ สระน้ำ บอ
เลี้ยงสัตวน้ำ นาขาวและพื้นททางการเกษตรซงมีน้ำทวมขัง
ึ่
ี่
3.1.12 อนุสัญญาแรมซาร (Ramsar Convention)
อนุสัญญาแรมซาร หรืออนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ำทีมีความสำคัญระหวางประเทศ
่
ไดถูกกำหนดและตั้งชื่อตามชื่อสถานที่จัดใหมีการประชุมเพื่อรับรองอนุสัญญาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ
พ.ศ. 2514 ณ เมืองแรมซาร ประเทศอิหราน อนุสัญญาดังกลาวเปนขอตกลงระหวางรัฐบาล ซึ่งกำหนดกรอบ
การทำงานสำหรับความรวมมอระหวางประเทศ เพื่อการอนุรักษแหลงทอยูอาศัยทเปนพื้นที่ชุมน้ำ โดยม ี
ื
ี่
ี่
ิ่
ื้
ั
ี่
วัตถุประสงคเพอการอนุรักษและการใชประโยชนพนที่ชุมน้ำอันเปนการอนุรักษถนทอยูอาศยของนกน้ำ
ื่
ตอมาขอบเขตการดำเนินการของอนุสัญญาฯ ไดขยายครอบคลุมกวางขนโดยเนนการอนุรักษและการใช
ึ้
ี่
ื้
่
ุ
ื
้
ี
ื่
ประโยชนของพนทชุมน้ำอยางชาญฉลาดในทก ๆ ดาน ตลอดจนเพอยับยั้งการสูญหายของพนทชุมน้ำในโลก
ั
ื
ิ
โดยมีพันธกิจที่สำคัญในการดำเนินงานระดับชาติโดยความรวมมอระดับนานาชาติ เพอกอใหเกดการพฒนา
่
ื
อยางยั่งยืนในทุกภูมิภาคของโลก อนุสัญญาฯ มีผลบังคับใชเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2514 และเพื่อให
เกิดความตระหนักถึงคุณคาและความสำคัญของพื้นที่ชุมน้ำ จึงไดกำหนดใหทุกวันที่ 2 กุมภาพันธ
ของทุกปเปนวันพื้นที่ชุมน้ำโลก (World Wetlands Day)
3.1.13 คุณคาและความสำคัญของพนที่ชุมน้ำ
ื้
พื้นที่ชุมน้ำยังเปนรากฐานสำคัญของระบบนิเวศและการบริการของระบบนิเวศ
(Ecosystem Service) ทั้งการเปนแหลงกักเก็บน้ำฝนและน้ำทาที่ชวยปองกันอุทกภัยและบรรเทา