Page 132 - Land Use Plan of Thailand
P. 132
4-14
การเกษตรซึ่งเป็นสาเหตุให้พืชพรรณต่างๆได้รับผลกระทบ ท าให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตไม่
สมบูรณ์ เกิดความเสียหายทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม(กรมอุตุนิยมวิทยา, 2560ง)
4.4.2 สาเหตุและลักษณะของการเกิดภัย
1) ดินถล่ม
(1) สาเหตุของการเกิดดินถล่มมีอยู่ 2 สาเหตุหลัก คือ
- สาเหตุจากธรรมชาติ ประกอบด้วย สภาพภูมิประเทศ ได้แก่ ความสูง ความ
ลาดชัน ลักษณะของความลาดเอียง ความต่างระดับของพื้นที่ รูปแบบและปริมาณฝน พืชพรรณและการใช้
ที่ดิน คุณสมบัติทางกายภาพของดิน ธรณีวิทยา ขนาดของพื้นที่ลุ่มน้ า ปริมาณน้ าท่า อัตราการไหลของน้ า
การเปลี่ยนแปลงระดับน้ าใต้ดิน การสั่นสะเทือนอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว การระเบิดของภูเขาไฟ การเกิด
คลื่นยักษ์ การกัดเซาะหน้าผาและตลิ่งโดยคลื่นหรือแม่น้ า รวมทั้งการเกิดหิมะถล่ม เป็นต้น
- สาเหตุจากมนุษย์ ประกอบด้วย การบุกรุกและตัดไม้ท าลายป่า การแผ้ว
ถางป่าเพื่อปลูกพืชไร่ การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่สูงโดยไม่มีการควบคุม เช่นการก่อสร้างที่อยู่
อาศัยในพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดดินถล่ม การสร้างถนน หรือเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ที่เป็นภูเขา นอกจากนั้น
แล้วการก่อสร้างบ้านเรือน และโครงสร้างพื้นฐานกีดขวางล าน้ า การขุดเจาะเพื่อฝังท่อ หรือการขุดเจาะ
เคลื่อนย้ายหิน รวมทั้งการสั่นสะเทือนจากการจราจรและการระเบิดที่รุนแรง ก็เป็นสาเหตุและปัจจัยที่
ก่อให้เกิดดินถล่มได้เช่นกัน
(2) ลักษณะของการเกิดดินถล่ม BC Geological Survey (2006) ได้แบ่งประเภท
ของการเกิดดินถล่ม ตามลักษณะต่างๆดังต่อไปนี้
- แบ่งตามอัตราการเคลื่อนที่ (rate of movement) โดยมีช่วงตั้งแต่
อัตราการเคลื่อนที่อย่างช้าๆ (มิลลิเมตร/ปี) ซึ่งเรียกว่า การคืบตัว (Creep) ถึงอัตราการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
(เมตร/วินาที)
- แบ่งตามลักษณะของวัตถุ โดยดินถล่มที่เกิดมีส่วนประกอบของ หินพื้นหรือ
ดิน ดินผสมกับหิน หรือ หิมะหรือเศษซากของต้นไม้ สิ่งมีชีวิตต่างๆ
- แบ่งตามลักษณะการเคลื่อนที่ การเคลื่อนที่ของหินพื้นหรือดิน ดินผสมกับหิน
หรือ เศษซากของต้นไม้ สิ่งมีชีวิตต่างๆมีหลายลักษณะ เช่น การเลื่อนไหล (slide) การถล่ม
(slump) การไหล (flow) การร่วง (fall)
2) อุทกภัย
(1) สาเหตุของการเกิดอุทกภัยมีอยู่ 2 สาเหตุหลักคือ เกิดจากธรรมชาติและเกิด
จากการกระท าของมนุษย์ กล่าวคือ
- สาเหตุจากธรรมชาติ เกิดจากฝนตกหนัก อันเนื่องมาจาก(1) พายุหรือพายุ
ฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลาหลายๆ ชั่วโมง มีปริมาณฝนตกหนักมากจนไม่อาจไหลลงสู่ต้นน้ า
ล าธารได้ทันจึงท่วมพื้นที่ที่อยู่ในที่ต่ า มักเกิดในช่วงฤดูฝนหรือในฤดูร้อน (2)ฝนตกหนักจากพายุหมุนเขต
ร้อน โดยเฉพาะขณะที่พายุนี้ประจ าอยู่แห่งใดแห่งหนึ่งเป็นเวลานานหรือแทบไม่เคลื่อนที่ จะท าให้
บริเวณนั้นๆ มีฝนตกหนักติดต่อกันตลอดเวลา ยิ่งพายุมีความรุนแรงมาก เช่น มีความรุนแรงขนาดพายุ
โซนร้อนหรือไต้ฝุ่น เมื่อเคลื่อนตัวไปถึงที่ใดก็ท าให้ที่นั้นเกิดพายุลมแรงฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างและมี