Page 211 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจยาสูบ
P. 211

ผก-7




                             การป้องกันก าจัดโรคในแปลงเพาะกล้า เมื่อต้นกล้างอกได้ 10-15 วัน ควรพ่นชินโคฟอล

                  (zincofol) อัตรา 20 กรัมต่อน้ า 10 ลิตร ล าหรับ 5 แปลง เพี่อป้องกันโรคโคนเน่า ในกรณีที่เป็นโรคแล้ว ให้
                  ตักดินบริเวณที่ เป็นโรคออกแล้วราดบอร์โด มิกซ์เจอร์ ซึ่งได้จากการผสมจุนสี 1.5 กิโลกรัม กับปูนขาว 1 กิโลกรัม และ
                  น้ า 100 ลิตร และป้องกันโรคแอนแทรกโนสซึ่งเกิดมากในฤดูหนาว โดยใช้แอนทราโคล อัตรา 20 กรัมต่อน้ า 10 ลิตร

                  ส าหรับ 5 แปลง
                             แปลงเพาะกล้าแปลงหนึ่งควรให้ต้นกล้าที่สมบูรณ์ส าหรับปลูกได้อย่างน้อย 2 ไร่ โดยปกติแล้ว
                  ควรเพาะกล้ามากกว่าที่ต้องการน าไปปลูก 10-30 เปอร์เช็นต์ เพี่อส ารองไว้ปลูกซ่อมแทนต้นกล้าที่ตาย
                  ในการย้ายปลูกครั้งแรก ต้นกล้าที่ดีควรมีรากมากและแน่นเป็นกระจุก ซึ่งเมื่อถอนย้ายลงปลูก รากจะยึดดิน
                  ติดมาด้วย การเจริญเติบโตดี ล าต้นแข็งแรง และสูง 12-18 เซนติเมตร

                             วิธีปลูกและระยะปลูก ระยะปลูกที่เหมาะสมส าหรับยาสูบแต่ละประเภท คือ
                             1. ยาสูบเวอร์ยิเนีย ระยะระหว่างแถว 1.2 เมตร ระยะระหว่างต้น 60 เซนติเมตร ซึ่งจะปลูกได้
                  2,200-2,500 ต้นต่อไร่ แต่ชาวไร่มักปลูกให้มีความหนาแน่นถึง 3,000-4,000 ต้นต่อไร่ ท าให้ใบยาสูบ

                  บังแสงกันเอง สร้างอาหารได้ไม่เต็มที่ ใบจึงมีขนาดเล็กและบาง
                             2. ยาสูบเบอร์เลย์ ระยะระหว่างแถว 1.1 เมตร ระยะระหว่างต้น 50 เซนติเมตร
                             3. ยาสูบเตอร์กิช ปลูกเป็นแถวคู่ ระยะระหว่างแถว 15-20 เซนติเมตร ระยะระหว่างแถวคู่
                  40 เซนติเมตร และระหว่างต้น 10 เซนติเมตร ซึ่งจะได้ต้นยาสูบ 20,000- 30,000 ต้นต่อไร่
                             การย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูก เมื่อต้นกล้าอายุ 30-60 วัน หรือโดยเฉลี่ย 45 วัน มีใบ 4-6 ใบ

                  สูง 12-18 เซนติเมตร และขนาดของล าต้นประมาณเท่าแท่งดินสอ ซึ่งแตกต่างกันขึ้นกับฤดูปลูก
                  ก่อนย้ายควรเปิดผ้า คลุมแปลงให้ต้นกล้าได้รับแสงแดดเป็นเวลา 2-3 วัน รดน้ าแปลงเพื่อความสะดวก
                  ในการถอน และลดความเสียหายที่เกิดกับล าต้น ใบ และราก ล้างมือด้วยสบู่ หรือน้ ายาไตรโซเดียมฟอสเฟต จากนั้น

                  เลือกถอนเฉพาะต้นกล้าที่ได้ขนาด เหลือต้นเล็กไว้ในแปลง และถอนต้นที่เป็นโรคหรืออ่อนแอทิ้ง สภาพ
                  ที่เหมาะจะย้ายกล้าคือ มีฝนตก และอุณหภูมิดินไม่ต่ าจนเกินไป ควรถอนย้ายต้นกล้าตอนเช้ามืด หรือเวลาเย็น
                  เมื่อแสงแดดอ่อน
                             ขุดหลุมกว้างประมาณ20เซนติเมตรลึก 10-15 เซนติเมตรรดน้ าให้ชุ่มแล้วรอ 10-20 นาที

                  เพื่อให้น้ าซึมลงในดิน โรยฟูราดาน หรือ คูราแทร์ อัตรา 2 กรัมต่อหลุม วางต้นกล้าลงให้รากสัมผัสกับ
                  สารเคมี แล้วกลบให้ดินพูนจากพื้น กดดินให้แน่น เหลือส่วนของล าต้นโผล่เหนือพื้นดินประมาณ
                  2.5 เซนติเมตร เพื่อให้เกิดรากมากที่สุด ในกรณีที่ต้องการใช้ต้นกล้าในแปลงเพาะอีก จะต้องเก็บเศษใบกล้าหรือ
                  ต้นกล้าขนาดเล็กที่ร่วงอยู่บนแปลงออกให้หมด แล้วรดน้ าแปลงกล้าให้ชุ่ม วันต่อมาควรฉีดสารบอร์โดมิกซ์เจอร์

                  หลังจากนั้น 5-7 วัน ก็ถอนต้นกล้าไปปลูกได้อีก
                             การใส่ปุ๋ย ยาสูบแต่ละประเภทต้องการปุ๋ยต่างกันดังนี้
                             1. ยาสูบเวอร์ยิเนีย ต้องการธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียมในปริมาณ
                  30- 62 กิโลกรัม N 13-22 กิโลกรัม P205 และ 14-23 กิโลกรัม K20 ต่อไร่ ตามล าดับ แต่ในทางปฏิบัติ

                  ชาวไร่มักใช้ปุ๋ยผสมสูตร 4-16-24+4 (MgO) หรือ 6-18-24+4 (MgO) อัตรา 150 และ 120 กิโลกรัมต่อไร่






                  เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจยาสูบ                               กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน
   206   207   208   209   210   211   212   213   214   215   216