Page 34 - เขตการใช้ที่ดินพิชเศรษฐกิจมะม่วง
P. 34
2-18
22) หน่วยที่ดินที่ 22 22I 22M2 22IM2 22hi 22hiI 22hiM2 22hiIM2 22d3c 22hi,d3c
22hi,d3cM2 22sa 22saI 22saM2 22saIM2 22sa,d3c 22sa,d3cI และ22sa,d3cM2
พบในสภาพพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ ดินลึกมาก การระบายน ้าค่อนข้างเลวถึงดีปาน
กลาง ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต ่า ความจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวกต ่ามากถึงต ่าปานกลางและความ
อิ่มตัวด้วยประจุบวกที่เป็นด่างค่อนข้างต ่าถึงปานกลาง ดินบน เนื้อดินเป็นดินร่วนปนทรายหรือดิน
ร่วนปนทรายแป้ง ดินล่างเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทรายหรือดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง
ปัญหาในการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่ มีความอุดมสมบูรณ์ต ่า เนื้อดินค่อนข้างเป็น
ทราย มีความสามารถในการอุ้มน ้าต ่า มักพบปัญหาการขาดแคลนน ้าในฤดูเพาะปลูก ในช่วงฤดูฝนจะมีน ้า
ท่วมขัง ดินกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ในฤดูฝนใช้ท านา
แนวทางการจัดการเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชเศรษฐกิจมะม่วง เนื่องจากดินกลุ่มนี้มีปัญหาเกี่ยวกับ
การระบายน ้าค่อนข้างเลว และเสี่ยงต่อน ้าท่วมขังเป็นระยะเวลายาวนานโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ในการ
ปลูกมะม่วงควรยกร่องปลูกเพื่อช่วยการระบายน ้าและป้องกันน ้าท่วม ปรับปรุงหลุมปลูกด้วยปุ๋ ยอินทรีย์
หรือปุ๋ ยหมัก โดยต้นมะม่วงขนาดเล็กใส่อัตรา 20 กิโลกรัมต่อต้น ต้นมะม่วงขนาดใหญ่ (ขนาดทรงพุ่ม 5
เมตร) ใส่อัตรา 35 กิโลกรัมต่อต้น ร่วมกับการใช้ปุ๋ ยเคมีโดยเฉพาะธาตุอาหารหลักไนโตรเจน ฟอสฟอรัส
และโพแทสเซียม และในบางพื้นที่ที่ดินเป็นกรดใช้หินปูนบด (CaCO ) อัตรา 200-300 กิโลกรัมต่อ
3
ไร่ เพื่อเพิ่มความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืชในดิน
23) หน่วยที่ดินที่ 23 23I 23M2 และ23IM2
พบในสภาพพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ ดินลึกมาก การระบายน ้าค่อนข้างเลว ดินมี
ความอุดมสมบูรณ์ต ่า ความจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวกต ่ามากถึงต ่าปานกลางและความอิ่มตัวด้วย
ประจุบวกที่เป็นด่างต ่า ดินบนและดินล่าง เนื้อดินเป็นดินทรายปนดินร่วน
ปัญหาในการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่ ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต ่า เนื้อดินเป็นทรายจัด มี
ความสามารถในการอุ้มน ้าต ่าถึงต ่ามาก และมีน ้าท่วมขังนานในรอบปี ดินกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ใช้ท านา
บางแห่งทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า มีวัชพืชต่างๆ ขึ้นอยู่ทั่วไป
แนวทางการจัดการเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชเศรษฐกิจมะม่วง เนื่องจากดินกลุ่มนี้มีปัญหาเกี่ยวกับ
การระบายน ้าเลวหรือค่อนข้างเลว และเสี่ยงต่อน ้าท่วมขังเป็นระยะเวลายาวนานโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
ในการปลูกมะม่วงควรยกร่องปลูกเพื่อช่วยการระบายน ้าและป้องกันน ้าท่วม ปรับปรุงหลุมปลูกด้วย
ปุ๋ ยอินทรีย์หรือปุ๋ ยหมัก โดยต้นมะม่วงขนาดเล็กใส่อัตรา 25 กิโลกรัมต่อต้น ต้นมะม่วงขนาดใหญ่ (ขนาด
ทรงพุ่ม 5 เมตร) ใส่อัตรา 50 กิโลกรัมต่อต้น ร่วมกับการใช้ปุ๋ ยเคมีโดยเฉพาะธาตุอาหารหลักไนโตรเจน
ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม และในบางพื้นที่ที่ดินเป็นกรดใช้หินปูนบด (CaCO ) อัตรา 200-300
3
กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อเพิ่มความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืชในดิน
เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจมะม่วง กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน