Page 48 - โครงการศึกษาการจัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศพืชบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของประเทศไทย
P. 48

2-20





                             4) สถิติภูมิอากาศจังหวัดเพชรบุรี (ตารางที่ 2-12 และ รูปที่ 2-12)

                               ใช้พิจารณาพื้นที่ปลูกชมพู่เพชร และมะนาวเพชรบุรี ซึ่งปลูกในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี
                  จากการวิเคราะห์สมดุลน้ าเพื่อการเกษตรจังหวัดเพชรบุรีพบว่า พื้นที่จังหวัดเพชรบุรีสามารถปลูกพืชได้
                  เกือบทั้งปี แต่มีช่วงที่พืชเสี่ยงต่อการขาดน้ าในช่วงต้นเดือนธันวาคม ถึงปลายเดือนเมษายน จึงควรมี

                  แหล่งน้ าส ารองเพื่อใช้ในการเขตกรรมในพื้นที่ปลูกชมพู่เพชร และ มะนาวเพชรบุรี เมื่อฝนทิ้งช่วง
                             5) สถิติภูมิอากาศจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  (ตารางที่ 2-11 และ รูปที่ 2-11)
                               ใช้พิจารณาพื้นที่ปลูกมะพร้าวทับสะแก ซึ่งปลูกในพื้นที่อ าเภอทับสะแก อ าเภอบาง

                  สะพาน อ าเภอบางสะพานน้อย และอ าเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการ
                  วิเคราะห์สมดุลน้ าเพื่อการเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถ
                  ปลูกพืชได้เกือบทั้งปี แต่มีช่วงที่พืชเสี่ยงต่อการขาดน้ าในช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงปลายเดือนเมษายน

                  จึงควรมีแหล่งน้ าส ารองเพื่อใช้ในการเขตกรรมในพื้นที่ปลูกพืชเมื่อฝนทิ้งช่วง ถึงแม้ว่ามะพร้าวจะ
                  สามารถให้ผลผลิตได้ในช่วงฤดูแล้ง แต่ผลผลิตมะพร้าวจะไม่ดีเท่าที่ควร หากไม่มีการจัดการระบบ
                  เพาะปลูก ดังนั้น ควรมีแหล่งน้ าส ารองเพื่อใช้ในการเขตกรรมในพื้นที่ปลูกมะพร้าวทับสะแก เพื่อให้
                  สามารถจัดการระบบเพาะปลูกได้ดียิ่งขึ้น ผลผลิตจะเพิ่มขึ้น ผลตอบแทนต่อพื้นที่จะสูงขึ้น

                             6) สถิติภูมิอากาศจังหวัดลพบุรี (ตารางที่ 2-14 และ รูปที่ 2-14)
                               ใช้พิจารณาพื้นที่ปลูกกระท้อนตะลุง ซึ่งมีพื้นที่ปลูกในอ าเภอโพธิ์เก้าต้น จังหวัดลพบุรี
                  จากการวิเคราะห์สมดุลน้ าเพื่อการเกษตรจังหวัดลพบุรี พบว่า พื้นที่จังหวัดลพบุรีสามารถปลูกพืชได้

                  เกือบทั้งปี แต่มีช่วงที่พืชเสี่ยงต่อการขาดน้ าในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงปลายเดือนมีนาคม จึงควร
                  มีแหล่งน้ าส ารองเพื่อใช้ในการเขตกรรมในพื้นที่ปลูกกระท้อนตะลุง ในช่วงฝนทิ้งช่วงดังกล่าว
                             7) สถิติภูมิอากาศภาคกลาง (ตารางที่ 2-38)

                               ใช้พิจารณาพื้นที่ปลูกส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม และลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม ซึ่งมี
                  พื้นที่ปลูกอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม และมะพร้าวน้ าหอมบ้านแพ้ว และล าไยพวงทองบ้านแพ้ว
                  ซึ่งปลูกในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จากการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติภูมิอากาศ ร่วมกับลักษณะสภาพพื้นที่

                  ปลูกของจังหวัดสมุทรสงคราม และ สมุทรสาคร พบว่า พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวมีน้ าส ารองตลอดปี
                  เนื่องจาก ส่วนใหญ่มีการปลูกพืชในพื้นที่ดินยกร่อง และล้อมรอบไปด้วยร่องน้ า หรือแหล่งน้ า จึงมีน้ า
                  เพื่อการเขตกรรมในพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฝนทิ้งช่วงตลอดฤดูเพาะปลูก ส่วนพื้นที่ปลูกมะยงชิด
                  นครนายก และมะปรางหวานนครนายก ซึ่งมีพื้นที่ปลูกอยู่ในจังหวัดนครนายก และพื้นที่ปลูกละมุดบ้าน

                  ใหม่ ซึ่งปลูกในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีช่วงเวลาที่พืชมีโอกาสเสี่ยงต่อการขาดน้ าในการ
                  เพาะปลูก ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน จึงควรมีแหล่งน้ าส ารองเพื่อใช้ในการเขตกรรมในพื้นที่
                  ปลูกมะยงชิดนครนายก มะปรางหวาน และละมุดบ้านใหม่ ในช่วงฝนทิ้งช่วงดังกล่าว
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53