Page 86 - Lamphun
P. 86
5-4
ฟื้นฟู และพื้นที่ที่มีการใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นพื้นที่รอการพิสูจน์สิทธิตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 เขตนี้มีเนื้อที่ 477,208 ไร่ หรือร้อยละ 16.94 ของเนื้อที่จังหวัด
ข้อเสนอแนะการใช้พื้นที่ในเขตบ ารุงรักษาป่า
- ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 เรื่อง
มาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้ โดยให้กรมป่าไม้ส ารวจพื้นที่ที่มีการครอบครองให้ชัดเจน
- ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2540 เรื่อง
แผนการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินและ
ป่าไม้อย่างมีระบบโดยให้มีการอนุรักษ์ควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน และสงวนรักษาไว้ซึ่งทรัพยากร
ป่าไม้ที่เหลืออยู่รวมถึงฟื้นฟูป่าที่เสื่อมสภาพ โดยต้องอยู่บนหลักในการลดปัญหาความขัดแย้งของการใช้
ทรัพยากรในพื้นที่
- ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการจัดการป่าไม้และจัดการป่าชุมชนแบบผสมผสาน
เพื่อให้ป่าคงอยู่และสามารถใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน
- ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดท าแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไฟป่าที่อาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
หรือจากกิจกรรมของมนุษย์
- รณรงค์ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลและบ ารุงรักษาผืนป่าในพื้นที่ร่วมกัน
- ควรเพิ่มมาตรการในการอนุรักษ์ที่เข้มงวด จริงจังและต่อเนื่อง เพื่อคงสภาพป่าไม้ให้มีความ
สมบูรณ์ โดยการพัฒนาด้านต่างๆ ต้องค านึงถึงความยั่งยืนของระบบนิเวศและผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่ม
น้ าด้านล่างโดยเฉพาะแนวทางจัดการให้พื้นที่ป่าไม้เป็นตัวควบคุมปริมาณน้ าในลุ่มน้ าในเวลาที่เหมาะสม
เช่น การสร้างฝายชะลอน้ าในบริเวณที่เหมาะสม
- ควรเร่งปลูกป่าทดแทนและฟื้นฟูสภาพป่าเพื่อรักษาระบบนิเวศลุ่มน้ าบริเวณพื้นที่ที่มี
ความลาดชันสูง และพื้นที่เสี่ยงต่อการชะล้างพังทลาย โดยเพิ่มมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ า
ที่เหมาะสม เช่น การปลูกหญ้าแฝกและสร้างฝายชะลอน้ า เป็นต้น
- ควรส่งเสริมและรณรงค์ให้ราษฎรในพื้นที่เห็นถึงคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้และ
มีส่วนร่วมในการดูแลและบ ารุงรักษาผืนป่าในพื้นที่ร่วมกัน
5.1.2 เขตพื้นที่เกษตรกรรม
เขตพื้นที่เกษตรกรรมได้แก่ พื้นที่นอกเขตที่มีการประกาศเป็นเขตป่าไม้ตามกฎหมายซึ่งรัฐได้
ก าหนดเป็นพื้นที่ท ากินมีการออกเอกสารสิทธิ์รวมถึงพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
(ส.ป.ก.) ที่ดินเอกชน แปลงที่ดินท ากินตามนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และพื้นที่ราชพัสดุซึ่งอยู่นอกเขต
ป่าไม้ตามกฎหมาย เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ที่ดินจึงเป็นปัจจัยส าคัญและเป็น
รากฐานของการผลิตทางการเกษตร ซึ่งจ าเป็นต้องบ ารุงรักษาและฟื้นฟูดิน รวมทั้งพัฒนาให้เหมาะสมแก่
การประกอบการเกษตรได้อย่างยั่งยืนและน าไปสู่การเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ส าคัญของโลก และจากผล
ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ท าให้มีการน าที่ดินที่เหมาะสมกับการเกษตรไปใช้เพื่อกิจกรรมอื่นๆ
หรือเป็นเจ้าของที่ดินแทนคนต่างด้าวด้วยประการใดๆ ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของ
ประเทศและความเป็นอยู่ของเกษตรกร จึงจ าเป็นต้องรักษา ป้องกันและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม
สนับสนุนการผลิตทางการเกษตรที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ เช่น ศักยภาพของที่ดิน แหล่งรองรับผลผลิต
ระบบชลประทาน ระบบโลจิสติกส์ โดยแบ่งพื้นที่เกษตรกรรมที่จ าเป็นต้องคุ้มครอง โดยยึดความ