Page 265 - coffee

ผ-8

7. วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว

7.1 การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
7.1.1 การคัดเลือกผลกาแฟ

เทผลกาแฟลงในภาชนะบรรจุน้ําสะอาด คัดผลกาแฟที่ลอยน้ําทิ้ง เพราะเปนผลฝอไมมีเมล็ด

หรือถูกทําลายดวยมอดเจาะ ซึ่งผลกาแฟที่จมน้ํา เปนผลที่มีเมล็ดสมบูรณ
7.1.2 การตาก

สถานที่ตากกาแฟตองมีอากาศถายเทไดดี มีแสงแดดตลอดทั้งวัน โดยนําผลกาแฟที่จมน้ํา

ไปตากบนลานซีเมนต หรือแครไมไผที่สะอาด รองดวยตาขาย เพื่อสะดวกในการเก็บถามีฝนตก
ระยะเวลาการตากจนแหงประมาณ 15-20 วัน ขึ้นกับสภาพแวดลอม ในชวง 10 วันแรกของการตาก

ควรเกลี่ยผลกาแฟใหมีความหนาประมาณ 4-5 เซนติเมตร และพลิกกลับผลกาแฟวันละ 2-3 ครั้ง

เมื่อผลกาแฟเริ่มแหง หรือหลังตาก 10 วัน อาจเกลี่ยผลกาแฟใหหนาขึ้นเพื่อประหยัดพื้นที่ ตอนเย็น

ควรเก็บผลกาแฟรวมกันแลวคลุมดวยพลาสติก เพื่อปองกันฝนหรือน้ําคาง ผลกาแฟที่แหง เมล็ดกาแฟ
ควรมีความชื้นไมเกินรอยละ 13 โดยน้ําหนัก ตรวจสอบโดยกําผลกาแฟแลวเขยาจะเกิดเสียงดัง หรือ

เมล็ดแตกเมื่อใชคอนทุบ

7.1.3 การกะเทาะเปลือก

ผลกาแฟแหงมีความไวตอการดูดกลิ่นไดดีและเก็บไดไมนาน จึงควรกะเทาะเปลือกทันที
หลังตากแหง หลังจากใชเครื่องสีเปลือกกาแฟ สีผลกาแฟแหงแลวจะไดสวนของเมล็ดกาแฟแหง (สาร

กาแฟ)

7.2 วิธีการผลิตสารกาแฟ
เปนวิธีการอยางหนึ่งที่กระทําหลังจากเก็บผลกาแฟมาแลว (พงษศักดิ์ อังกสิทธิ์ จากสํานัก

คณะกรรมการปองกันและปราบปรามยาเสพติด, 2523) ไดกลาววาวิธีการผลิตสารกาแฟมีอยู 2 วิธี

ดังตอไปนี้
7.2.1 วิธีแหง (Dry method)

เปนวิธีการผลิตสารกาแฟที่งาย และขบวนการไมยุงยาก ทําไดโดยนําผลกาแฟที่เก็บ

มาแลวตากแดดประมาณ 15-20 วัน มาเกลี่ยใหเมล็ดกาแฟกระจายออก ไมควรกองสุมกัน เมื่อนําไป
กะเทาะเมล็ดก็จะไดสารเมล็ดกาแฟตามที่ตองการ วิธีนี้มีขอเสีย คือ เมล็ดกาแฟมีความไวตอการดูดกลิ่น

ไดดี ทําใหไดสารกาแฟที่มีคุณภาพคอนขางต่ําและเมล็ดกาแฟไมสามารถเก็บไวไดนาน

7.2.2 วิธีเปยก (Wet method)

วิธีนี้สามารถผลิตสารกาแฟที่มีรสและกลิ่นดี โดยไมตองไดรับการหมักหมมของเปลือก
และเมือกกาแฟ ซึ่งวิธีนี้ใชระยะเวลาการผลิตสารกาแฟเพียง 7 วัน โดยนําผลกาแฟที่เก็บมาแลว และ

เขตการใชที่ดินพืชเศรษฐกิจกาแฟ สํานักนโยบายและแผนการใชที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน