Page 40 - การใช้เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกลเพื่อศึกษารูปแบบการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ
P. 40
29
ละต้นในระยะนี มีความสัมพันธ์โดยตรงกับน าหนักของแต่ละล าต้น และน าหนักแต่ละล าต้น มีผลโดยตรง
ต่อผลผลิตน าหนักของอ้อยทั งไร่ เมื่อเก็บเกี่ยว
๔) ระยะแก่และสุก (maturity and ripening phase) ระยะแก่คือระยะที่มีอัตรา
การเจริญเติบโตช้าลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับระยะต่างๆ ตามที่ได้กล่าวแล้ว เมื่อการเจริญเติบโตเริ่มช้าลง
น าตาลที่ใบสร้างขึ นจากการสังเคราะห์แสงก็จะถูกใช้น้อยลง และมีเหลือเก็บสะสมในล าต้นมากขึ น ซึ่งเป็น
การเริ่มต้นของระยะสุกนั่นเอง การสะสมน าตาลจะเริ่มจากส่วนโคนไปหาปลาย ดังนั นส่วนโคนจึงหวาน
ก่อน และมีความหวานมากกว่าส่วนปลาย การสะสมน าตาลจะมีมากขึ นโดยล าดับ จนกระทั่งส่วนโคน
ส่วนกลาง และส่วนปลาย มีความหวานใกล้เคียงกัน เรียกว่า สุก
ภาพที่ 6 การเปลี่ยนแปลงด้านชีพลักษ์ของอ้อย
ที่มา: Scarpare (n.d.)
3.1.3 การศึกษาการเจริญเติบโตของมันส าปะหลัง
มันส าปะหลังปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่ชอบดินร่วนปนทรายเพราะจะลงหัวและเก็บเกี่ยวง่าย
เจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินที่ไม่มีน าท่วมขัง มีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ระหว่าง 5.5-8.0 ทนต่อ
สภาพความเป็นกรดสูงได้แม้ pH ของดินจะต่ าจนถึง 4.5 ก็ไม่ท าให้ผลผลิตลด แต่ไม่ทนต่อสภาพพื นที่เป็น
ด่าง โดยไม่สามารถขึ นได้ถ้า pH สูงถึง 8 ถ้าเป็นดินทรายสามารถปลูกได้ตลอดปี แต่เกษตรกรมักนิยม
ปลูกปลายฤดูฝน เช่น แถบจังหวัดระยอง และชลบุรี ถ้าเป็นดินเหนียวจะนิยมปลูกต้นฤดูฝน เพราะถ้าเป็น
ฤดูแล้งการไถพรวนจะได้ดินก้อนใหญ่ ท่อนพันธุ์มันส าปะหลังจะแห้งตายก่อนที่จะงอก มันส าปะหลังเป็น
พืชวันสั น ซึ่งปจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของมันส าปะหลังมี 2 ปจจัย คือ
1) ปจจัยทางดานพันธุกรรมมันส าปะหลัง
มันส าปะหลัง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1. ชนิดหวาน เป็นมันส าปะหลังใช้เพื่อการ
บริโภค มีปริมาณกรดไฮโดรไซยานิคต่ าไม่มีรสขม สามารถใช้หัวสดท าอาหารได้โดยตรง เช่น น าไปนึ่ง
เชื่อม หรือทอด ซึ่งได้แก่ พันธุ์ห้านาที พันธุ์ระยอง 2 เป็นต้น 2. ชนิดขม เป็นมันส าปะหลังที่มีรสขม ไม่
เหมาะสมส าหรับการบริโภคของมนุษย์หรือใช้หัวสดเลี ยงสัตว์โดยตรง เนื่องจากมีปริมาณกรดไฮโดรไซ