Page 101 - รายงานการศึกษาการประเมินแนวโน้มและทิศทางการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน
P. 101
- 1 -
บทที่ 6
สรุปและข้อเสนอแนะ
6.1 สรุป
6.1.1 พื้นที่ศึกษา คทช. ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู ท้องที่ตำบลอุ่มเหม้า อำเภอธาตุพนม จังหวัด
นครพนม เนื้อที่ 1,525 ไร่ เกษตรกรเข้าอยู่อาศัยและทำกินก่อนการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ
มีการเปลี่ยนพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตร โดยพืชเศรษฐกิจหลัก 5 ชนิดที่เกษตรกรปลูกในพื้นที่ ปี พ.ศ. 2562
ดังนี้ มันสำปะหลัง (ร้อยละ 14.82) ข้าว (ร้อยละ 14.16) อ้อย (ร้อยละ 6.75) ยางพารา (ร้อยละ 55.38)
และปาล์มน้ำมัน (ร้อยละ 2.47) ในขณะที่เนื้อที่ป่าไม้เหลือเพียงร้อยละ 1.97
6.12 การเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินจากป่าไม้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529–2562
ส่งผลให้ศักยภาพการดูดซับคาร์บอนในดินของพื้นที่ศึกษามีแนวโน้มลดลง ความสามารถการดูดซับ
คาร์บอนในดินจึงขึ้นกับพืชเกษตรแต่ละชนิดที่มีการปลูกในพื้นที่แทนไม้ป่า อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เวลาการ
เก็บเกี่ยวผลผลิตพืชเกษตรจะถูกจัดเก็บเพื่อบริโภคและการค้า ปริมาณคาร์บอนกักเก็บในดินจะถูกปลดปล่อย
ออกสู่บรรยากาศ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ดูดซับจากพืชเกษตรจึงมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลง
ตลอดเวลา ไม่ยั่งยืนเหมือนดังเช่นการปลูกไม้ใหญ่ที่ต้องใช้ระยะเวลาและรอบตัดฟันที่นานกว่า อย่างน้อย 5 ปี
ขึ้นไป ซึ่งจะมีการสะสมคาร์บอนในดินและลำต้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความยั่งยืนและแน่นอนกว่า
6.1.3 การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน พื้นที่จัดสรร คทช. จึงมี
แนวโน้มมากขึ้นตราบเท่าที่ยังมีการบุกรุกแผ้วถางป่าและพื้นที่ป่าถูกทดแทนด้วยพืชเกษตรอย่างต่อเนื่อง
และขาดการบริหารจัดการที่เหมาะสม ดังนั้น ในช่วงระยะเวลาระหว่างปี พ.ศ. 2559–2589 ซึ่งกรมป่าไม้
ได้อนุญาตให้เกษตรกรเข้าใช้พื้นที่เพื่อทำกินและอยู่อาศัย จึงสามารถประเมินแนวโน้มและทิศทาง
การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามแนวทางการกำหนดภาพอนาคตใน 2 กรณี (คือ กรณีไม่มีนโยบาย
และ / หรือ มาตรการใด ๆ การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเพิ่มขึ้น และกรณีมีนโยบายและมาตรการ
กำกับการใช้ที่ดินในพื้นที่ คทช. การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะลดลงตามลำดับ) ภายใต้สมมติฐาน
การเปลี่ยนแปลงของ 2 ปัจจัย (คือพื้นที่ป่าไม้ และสภาพเศรษฐกิจและสังคม) ได้ผลสรุปดังตารางที่ 5.6
ในบทที่ 5
6.1.4 พืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรมีการปลูกจริงในพื้นที่ มีความเหมาะสมของดินระดับปานกลาง (S2)
ได้แก่ อ้อย ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ตามลำดับ โดยพืชทางเลือกที่สามารถส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก
เพื่อเสริมสร้างรายได้ในภาวะปกติวิถีใหม่ (New Normal) ได้แก่ ข้าวโพด ขิง ข่า และกระชาย ซึ่งมีความ
เหมาะสมดินระดับปานกลาง (S2) เช่นกัน
6.1.5 ในการพิจารณาความเหมาะสมของการนำเอาแหล่งสะสมคาร์บอนใด ๆ มาคิดคำนวณ
ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของข้อมูล ค่าใช้จ่ายในการตรวจวัด และความต้องการในการอนุรักษ์ไม้ยืนต้น