Page 204 - Phetchaburi-Prachuap Khirikhan Basin
P. 204

5-31






                            2) สงเสริมใหมีมาตรการอนุรักษดินและน้ำ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณของดิน เชน
                  การไมเผาตอซัง การปลูกหญาแฝก และทำแนวคันดิน ในการชะลอเก็บกักน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่

                  มีความลาดชันสูง (กรมพัฒนาที่ดิน)
                            3) สรางแหลงน้ำในไรนานอกเขตชลประทานใหมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในชวงเวลาฝนทิ้งชวง
                  และใชชวยระบายน้ำเปนแกมลิงในชวงเวลาฝนตกหนัก รวมทั้งขุดลอกแหลงน้ำสาธารณะ
                  เพื่อเตรียมเก็บกักน้ำไวใชในฤดูแลง
                            4) ใหความรูแกเกษตรกรในการใชน้ำเพื่อการเกษตรใหเกิดประโยชนสูงสุดและ
                  มีการวางแผนการเพาะปลูกพืชใหสอดคลองกับน้ำตนทุน

                            5) เกษตรกรควรรวมกลุมกันพัฒนาสินคาเกษตรใหไดใบรับรองสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตร
                  (Geographical Indications หรือ GI) เพื่อมูลคาสินคาเกษตร สินคาที่ใชสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตร
                  มักจะเปนสินคาที่มีชื่อเสียงและไดรับความนิยม เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษหรือมีลักษณะเฉพาะที่เกิด
                  จากอิทธิพลสิ่งแวดลอมทางภูมิศาสตร เชน สภาพแวดลอม ดิน ฟา อากาศ ของแหลงภูมิศาสตรนั้น ๆ

                  ตลอดจนทักษะความชำนาญและภูมิปญญาของกลุมชนที่อาศัยอยูในแหลงภูมิศาสตรนั้น ๆ
                  ประกอบดวย สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรมีความแตกตางจากทรัพยสินทางปญญาประเภทอื่น กลาวคือ
                  ผูเปนเจาของไมใชบุคคลหนึ่งบุคคลใดแตเปนกลุมชุมชนที่เปนผูผลิตหรือผูประกอบการในพื้นที่

                  ทางภูมิศาสตรนั้น ๆ ซึ่งจะสงผลใหผูผลิตที่อาศัยอยูในสถานที่หรือแหลงภูมิศาสตร และผูประกอบการ
                  เกี่ยวกับสินคาที่ใชสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรนั้นเทานั้น ที่มีสิทธิผลิตสินคาดังกลาวโดยใชชื่อทางภูมิศาสตรนั้นได
                  ผูผลิตคนอื่นที่อยูนอกแหลงภูมิศาสตรจะไมสามารถผลิต สินคาโดยใชชื่อแหลงภูมิศาสตรเดียวกัน
                  มาแขงขันได สิทธิในลักษณะดังกลาวนี้นักวิชาการบางทานเรียกวา “สิทธิชุมชน” ซึ่งไมสามารถนำสิทธิ
                  ที่ไดรับไปอนุญาตใหบุคคลอื่นใชตอได ผูที่อยูในพื้นที่แหลงภูมิศาสตรเทานั้นที่มีสิทธิใช

                  สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรนี้ อาจแบงไดเปน 2 ลักษณะคือ (กรมทรัพยสินทางปญญา, 2559)
                              (1) สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรโดยตรง (Direct Geographical Indication) กลาวคือ
                  เปนชื่อทางภูมิศาสตรที่เกี่ยวของกับสินคานั้นๆ โดยตรง เชน ไชยา เพชรบูรณ เปนตน

                              (2) สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรโดยออม (Indirect Geographical Indication) กลาวคือ
                  เปนสัญลักษณ หรือสิ่งอื่นใดที่ไมใชชื่อทางภูมิศาสตร ซึ่งใชเพื่อบงบอกแหลงภูมิศาสตรอันเปน
                  แหลงกำเนิดหรือแหลงผลิตของสินคา เชน สัญลักษณประจำอำเภอ หรือจังหวัดเชน รูปยาโม
                  รูปหอไอเฟล เปนตน โอกาสการผลิตสินคา GI สำนักงานมาตรฐานสินคาเกษตรและอาหารแหงชาติ

                  (มกอช.) พบวา ปจจุบันสินคาที่ไดขึ้นทะเบียนสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรหรือสินคาจีไอ (GI) กำลังไดรับความ
                  นิยมเพิ่มมากขึ้นทั้งตลาดภายในและตางประเทศเนื่องจากผูบริโภคใหความสนใจในแหลงที่มาของสินคา
                  รวมถึงเรื่องราวประวัติความเปนมาของสินคา โดยเฉพาะตลาดสหภาพยุโรป (EU) มีความตองการสินคา
                  GI คอนขางสูงและมีแนวโนมสดใส

                            6) สงเสริมใหเกษตรกร ทำเกษตรอินทรียใหไดใบรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย
                  เกษตรอินทรีย (Organic Agriculture) คือ ระบบการจัดการดานการเกษตรแบบองครวม
                  ที่เกื้อหนุนตอระบบนิเวศ วงจรชีวภาพ และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเนนการใชวัสดุธรรมชาติ
                  หลีกเลี่ยงวัตถุดิบที่ไดจากการสังเคราะห และไมใชพืช สัตว หรือจุลินทรียที่ไดมาจากการดัดแปรพันธุกรรม

                  (Genetic Modification) หรือ พันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering) มีการจัดการกับผลิตภัณฑ






                  แผนการใชที่ดินลุมน้ำหลักแมน้ำเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ
   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208   209