Page 105 - khonkaen
P. 105

5-11





                                        - ควรจัดทําแนวกันไฟเพื่อปองกันไฟปาที่อาจเกิดขึ้นไดจากธรรมชาติหรือจาก

                  กิจกรรมของมนุษย เพื่อใหปาไมมีการฟนตัวตามธรรมชาติที่สมบูรณ

                                  1.2.3) เขตฟนฟูทรัพยากรธรรมชาติภายใตเงื่อนไข
                                    - ใหหนวยงานที่เกี่ยวของปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541
                  เรื่อง มาตรการและแนวทางแกไขปญหาที่ดินปาไม โดยมุงเนนแกไขปญหาในพื้นที่ปาอนุรักษตาม
                  กฎหมาย เชน เขตอุทยานแหงชาติ และพื้นที่ปาอนุรักษตามมติคณะรัฐมนตรี กําหนดใหกรมปาไมสํารวจ
                  พื้นที่ที่มีการครอบครองใหชัดเจน

                                    - ใหหนวยงานที่เกี่ยวของปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2540
                  เรื่อง แผนการจัดการทรัพยากรที่ดินและปาไมระดับพื้นที่ เพื่อใหเกิดการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดิน
                  และปาไมอยางมีระบบโดยใหมีการอนุรักษควบคูกับการพัฒนาที่ยั่งยืน และสงวนรักษาไวซึ่งทรัพยากร

                  ปาไมที่เหลืออยูรวมถึงฟนฟูปาที่เสื่อมสภาพ โดยตองอยูบนหลักในการลดปญหาความขัดแยงของการใช
                  ทรัพยากรในพื้นที่
                                    - ควรเพิ่มมาตรการในการอนุรักษที่เขมงวด จริงจังและตอเนื่อง เพื่อคงสภาพปาไมให
                  มีความสมบูรณ โดยการพัฒนาดานตาง ๆ ตองคํานึงถึงความยั่งยืนของระบบนิเวศและผลกระทบตอ

                  พื้นที่ลุมน้ําดานลางโดยเฉพาะแนวทางจัดการใหพื้นที่ปาไมเปนตัวควบคุมปริมาณน้ําในลุมน้ําในเวลาที่
                  เหมาะสม เชน การสรางฝายชะลอน้ําในบริเวณที่เหมาะสม
                                    - ควรเรงปลูกปาทดแทนและฟนฟูสภาพปาเพื่อรักษาระบบนิเวศลุมน้ําบริเวณพื้นที่
                  ที่มีความลาดชันสูง และพื้นที่เสี่ยงตอการชะลางพังทลาย โดยเพิ่มมาตรการอนุรักษดินและน้ํา

                  ที่เหมาะสม เชน การปลูกหญาแฝกและสรางฝายชะลอน้ํา เปนตน
                                    - ควรสงเสริมและรณรงคใหราษฎรในพื้นที่เห็นถึงคุณคาของทรัพยากรปาไมและ
                  มีสวนรวมในการดูแลและบํารุงรักษาผืนปาในพื้นที่รวมกัน

                           2)  เขตพื้นที่เกษตรกรรม

                                2.1) เขตพื้นที่เกษตรกรรมชั้นดี
                                        2.1.1) เขตทํานา

                                    - ในการใชพื้นที่เพื่อการทํานาควรมีการเพิ่มศักยภาพการผลิตดวยการพัฒนา
                  ระบบสงน้ํา และแหลงกักเก็บน้ําขนาดเล็กในไรนา เพื่อลดความเสียหายกรณีฝนทิ้งชวง และเพิ่มศักยภาพ
                  การผลิตดวยการใชพันธุดีจากแหลงผลิตที่เชื่อถือไดประกอบกับการใชปุยอินทรียหรือปุยชีวภาพควบคูกับ

                  การใชปุยเคมีในอัตราที่เหมาะสม หรืออาจทําเกษตรแบบเกษตรผสมผสานตามแนวทางทฤษฎีใหม โดย
                  การขุดบอน้ําเลี้ยงปลา ยกรองปลูกผัก ไมผล ไมยืนตนและนาขาวรวมกัน
                                  2.1.2) เขตปลูกพืชไร
                                    - ยึดรูปแบบและแนวทางการพัฒนาในเขตทํานา
                                     - ศึกษา วิจัยระบบการทําฟารม (Farming system research) ระบบการปลูกพืช

                  หรือระบบเกษตรแบบผสมผสาน โดยนําเทคโนโลยีที่ไดผลดีในสถานีทดลอง ไปทดสอบหาความเหมาะสม
                  ในไรนาของเกษตรกรตามสภาพทองถิ่น เพื่อเปนการเพิ่มประสิทธิภาพการใชที่ดินจากการปลูกพืชชนิดเดียว
                  เปนการปลูกพืชหลายชนิดในพื้นที่เดียวกัน






                  แผนการใชที่ดินจังหวัดขอนแกน                                    กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน
   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110