Page 22 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี

2-10

ตารางที่ 2 - 1 สถิติภูมิอากาศ ณ สถานีตรวจอากาศอําเภอเมืองสุราษฎรธานี จังหวัดสุราษฎรธานี
ป 2532-2561

ความชื้น ปริมาณ จํานวนวันที่ ศักยภาพ ปริมาณฝน
อุณหภูมิ (°ซ)
เดือน สัมพัทธ น้ําฝน ฝนตก การคายระเหยน้ํา* ใชการ*
ต่ําสุด สูงสุด เฉลี่ย (%) (มม.) (วัน) (มม.) (มม.)
ม.ค. 21.70 31.20 25.90 82 68.10 7 111.60 60.70
ก.พ. 21.60 32.70 26.60 79 18.50 3 122.36 18.00
มี.ค. 22.50 34.40 27.70 77 72.50 5 147.25 64.10
เม.ย. 23.80 35.20 28.40 78 89.20 8 136.20 76.50
พ.ค. 24.20 34.50 28.00 83 166.80 17 127.41 122.30
มิ.ย. 24.00 33.80 27.80 82 125.00 15 112.20 100.00
ก.ค. 23.60 33.10 27.30 83 138.50 17 114.39 107.80
ส.ค. 23.60 33.10 27.20 83 132.30 17 119.97 104.30
ก.ย. 23.40 32.70 26.90 84 163.00 18 106.50 120.50
ต.ค. 23.40 32.00 26.60 87 218.10 19 102.92 142.00
พ.ย. 23.30 30.80 26.30 87 289.00 17 91.20 153.90
ธ.ค. 22.50 30.20 25.80 85 162.10 13 94.55 120.10
เฉลี่ย 23.13 32.81 27.04 83 - - - -
รวม - - - - 1,643.10 156 1,386.55 1,190.20

หมายเหตุ: * จากการคํานวณโดยโปรแกรม Cropwat for Windows Version 8.0
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา (2562)
สมดุลของน้ําเพื่อการเกษตร เปนการวิเคราะหหาชวงเวลาหรือชวงฤดูกาลเพาะปลูกในฤดูฝน

ที่เหมาะสม ชวงระยะเวลาที่พืชเสี่ยงตอการขาดน้ํา ซึ่งตองหลีกเลี่ยงการปลูกพืช เมื่อจัดหาน้ําไวใหพืชได
ไมเพียงพอ ขอมูลที่นํามาวิเคราะห คือ ปริมาณน้ําฝน คาศักยภาพการคายระเหยน้ํา (ETo) (ตารางที่ 2 - 1)
คา ETo คํานวณดวยโปรแกรม Cropwat for Windows Version 8.0 โดยใชสมการ Penman-Monteith

จากการวิเคราะห สามารถสรุปสมดุลของน้ําเพื่อการเกษตร จังหวัดสุราษฎรธานีไดดังนี้ (รูปที่ 2 - 2)
ชวงที่เหมาะสมตอการเพาะปลูก มีปริมาณน้ําฝนรวม 1,556.50 มิลลิเมตร หรือรอยละ 94.73 ของ
ปริมาณน้ําฝนรวมตลอดป เริ่มตั้งแต ประมาณตนเดือนมีนาคมถึงประมาณปลายเดือนธันวาคม โดยปริมาณ
น้ําฝนเริ่มสูงขึ้นจนถึงตนเดือนพฤษภาคม มีปริมาณน้ําฝน 72.50 - 166.80 มิลลิเมตร ตอมาปริมาณน้ําฝน
เริ่มลดลงจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม มีปริมาณน้ําฝน 125 - 138.50 มิลลิเมตร จากนั้นปริมาณน้ําฝน

เริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ตั้งแตตนเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนธันวาคม มีปริมาณน้ําฝน 132.30 - 289 มิลลิเมตร
ชวงน้ํามากเกินพอ มีปริมาณน้ําฝนรวม 1,394.80 มิลลิเมตร หรือรอยละ 84.89 ของปริมาณน้ําฝนรวม
ตลอดป เริ่มตั้งแต ประมาณตนเดือนพฤษภาคมถึงประมาณปลายเดือนธันวาคม เปนชวงฝนตกหนักติดตอกัน

เปนระยะเวลานาน แบงออกเปน 2 ชวง ชวงแรก ไดรับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต เริ่มตั้งแต
ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงประมาณปลายเดือนกันยายน เปนระยะเวลา 5 เดือน มีปริมาณน้ําฝนรวม
725.60 มิลิเมตร ชวงที่ 2 ไดรับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผานอาวไทยอยางเต็มที่
เริ่มตั้งแต ประมาณตนเดือนตุลาคมถึงประมาณปลายเดือนธันวาคม เปนระยะเวลา 3 เดือน มีปริมาณน้ําฝน

รวม 669.20 มิลิเมตร ประกอบกับมีพายุหมุนเขตรอนอยูเปนประจํา มักจะเกิดน้ําปาไหลหลากและน้ําทวม
ฉับพลันในจังหวัดสุราษฏรธานี