Page 47 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดระนอง
P. 47
2-31
2.80%
สารกาแฟคุณภาพ วิสาหกิจชุมชน ส่งออก
3% 2.80% 1.50% 0.5%
0.2 0.80%
สถาบันการเกษตร 12% ในจังหวัด 18.50% 1%
26% (โรงงาน/โรงคั่ว/ร้านกาแฟ)
เกษตรกร 10%
สารกาแฟ 3%
32%
พ่อค้ารวบรวม 5%
40%
30% 5%
สารกาแฟทั่วไป 5% ตัวแทนบริษัท 75% นอกจังหวัด 81%
3% 75% (โรงงาน/โรงคั่ว/ร้านกาแฟ)
รูปที่ 2-12 โครงสร้างการตลาดกาแฟภายในตลาดจังหวัดระนอง
ที่มา: ส านักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 (2562)
(2) การวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจของพืชเศรษฐกิจและพืชทางเลือก
ต้นทุนการผลิตกาแฟ จังหวัดระนอง ปี 2560 ในพื้นที่เหมาะสม
ส าหรับการปลูก (S1,S2) เท่ากับ 8,136.61 บาท/ไร่ มีผลผลิตเฉลี่ย 177.56 กิโลกรัม/ไร่ ราคา
ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 69.50 บาท/กิโลกรัม มูลค่าการขายผลผลิต หรือผลตอบแทนเท่ากับ
12,340.42 บาท/ไร่ เมื่อหักด้วยต้นทุนรวมต่อไร่ แล้วมีผลตอบแทนสุทธิที่เกษตรกรได้รับเท่ากับ
4,203.81 บาท/ไร่
ในขณะที่ต้นทุนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสมส าหรับการปลูก (S3,N)
เท่ากับ 6,612.53 บาท/ไร่ มีผลผลิตเฉลี่ย 94.62 กิโลกรัม/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 69.50
บาท/กิโลกรัม มูลค่าการขายผลผลิต หรือผลตอบแทนเท่ากับ 6,576.09 บาท/ไร่ เมื่อหักด้วยต้นทุนรวม
ต่อไร่ แล้วมีผลตอบแทนสุทธิที่เกษตรกรได้รับเท่ากับ -36.44 บาท/ไร่
เมื่อพิจารณาอัตราส่วนรายได้ต่อต้นทุนทั้งหมด (BCR) พบว่า ในพื้นที่
เหมาะสม (S1,S2) และพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) เท่ากับ 1.52 และ 0.99 ตามล าดับ ในพื้นที่เหมาะสม
มีค่ามากกว่า 1 แสดงให้เห็นว่าคุ้มค่ากับการลงทุน และพื้นที่ไม่เหมาะสม มีค่าน้อยกว่า 1 แสดงให้เห็น
ว่าไม่คุ้มค่ากับการลงทุน จึงควรแนะน าให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น (ตารางที่ 2-12)