Page 123 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
P. 123

5-11





                                      3.1) เขตพื้นที่เร่งรัดส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการผลิต (สัญลักษณ์แผนที่ 231) มี

                  เนื้อที่ 253,153 ไร่ หรือร้อยละ 6.36 ของเนื้อที่จังหวัด โดยเขตนี้มีพื้นที่ซ้อนทับกับพื้นที่ราชพัสดุ
                  ประมาณ 68,844 ไร่ ลักษณะพื้นที่มี่ความเหมาะสมในการผลิตทางการเกษตรค่อนข้างต่ า หรือไม่เหมาะสม
                  ต่อการผลิตสินค้าเกษตร เนื่องจากให้ผลผลิตไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน หรืออาจมีการเสี่ยงต่อภัยพิบัติทาง

                  ธรรมชาติ การใช้พื้นที่ท าการเกษตรจ าเป็นต้องมีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ หรือปรับเปลี่ยนการผลิตพืชให้
                  เหมาะสมตรงคามศักยภาพของที่ดิน โดยจ าแนกเป็นกลุ่มย่อยได้ดังนี้
                                        กลุ่มนาข้าว มีเนื้อที่ 2,475 ไร่ หรือร้อยละ 0.06 ของเนื้อที่จังหวัด
                                            กลุ่มไม้ผล มีเนื้อที่ 31,374 ไร่ หรือร้อยละ 0.79 ของเนื้อที่จังหวัด
                                            กลุ่มไม้ยืนต้น มีเนื้อที่ 219,304 ไร่ หรือร้อยละ 5.51 ของเนื้อที่จังหวัด

                                      รูปแบบการพัฒนาและแนวทางการจัดการ
                                     - การใช้ที่ดินท าการเกษตรต้องมีการวางแผนการผลิตและการเพาะปลูกที่
                  ตอบสนองต่อสภาพพื้นที่และภูมิอากาศ และเลือกชนิดพืชให้เหมาะสมกับที่ดิน

                                            - ปรับปรุงบ ารุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยการใส่ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ให้
                  ถูกต้องตามลักษณะดิน ในช่วงดินมีความชื้นเหมาะสมควรปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่ว เพื่อเพิ่ม
                  อินทรียวัตถุแก่ดิน
                                            - ควรปรับปรุงบ ารุงดินโดยการเพิ่มอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยพืชสด
                  เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของดิน และเพิ่มธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ส าหรับพืชร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีใน
                  อัตราที่เหมาะสม

                                            - ในการใช้พื้นที่เพื่อการท านาควรมีการเพิ่มศักยภาพการผลิตด้วยการพัฒนา
                  แหล่งน้ า เช่น การสร้างบ่อน้ าในไร่นา เพื่อเก็บกักน้ าส าหรับปลูกพืชลดความเสียหายจากกรณีฝนทิ้งช่วง
                                            - ควรเพิ่มศักยภาพการผลิตด้วยการใช้เมล็ดพันธุ์/ท่อนพันธุ์ที่ดีจากแหล่งผลิตที่

                  เชื่อถือได้
                                            - ควรใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยชีวภาพควบคู่กับการใช้ปุ๋ยเคมีในอัตราที่เหมาะสม
                  ตามค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อเป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดินทั้งยังเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตจากค่า
                  ปุ๋ยเคมีด้วย

                                            - ส่งเสริมการท าเกษตรแบบเกษตรผสมผสานตามแนวทางทฤษฎีใหม่ โดยการ
                  ขุดบ่อน้ าเลี้ยงปลา ยกร่องปลูกผัก ไม้ผล ไม้ยืนต้นและนาข้าวร่วมกัน

                                      3.2) เขตเกษตรกรรมที่ต้องพัฒนาตามหลักวนศาสตร์ร่วมกับระบบอนุรักษ์ดินและ
                  น้้าที่เหมาะสม (สัญลักษณ์แผนที่ 232) เขตนี้มีเนื้อที่ 102,838 ไร่ หรือร้อยละ 2.58 ของเนื้อที่จังหวัด
                  พื้นที่ในเขตนี้ปัจจุบันเป็นบริเวณที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ในสภาพพื้นที่ที่มีความลาดชัน
                  มากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่มีการใช้พื้นที่เพื่อปลูกสับปะรดโรงงาน ยางพารา และมะม่วง
                                      รูปแบบการพัฒนาและแนวทางการจัดการ

                                          - เจ้าหน้าที่/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนที่ท าการเกษตรในพื้นที่ดังกล่าว
                  ควรร่วมกันพิจารณาถึงความเหมาะสม และแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณดังกล่าว เพื่อการสงวน
                  และอนุรักษ์พื้นที่ให้เป็นเขตป่าต้นน้ าล าธาร โดยการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ หรืออนุโลมให้มีการใช้

                  ประโยชน์เพื่อการเกษตรได้ ส าหรับในกรณีที่มีความจ าเป็นต้องใช้พื้นที่เพื่อการเกษตรต้องมีแนวทางการ
   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128