Page 108 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ์ 2566
P. 108
3-38
้
ไนโตรเจนปริมาณสูง งายตอการสับกลบ ชวยปรับปรุงบำรุงดิน และสงผลใหผลผลิตขาวเพิ่มขึนประมาณ 30-
35 เปอรเซ็นต และมีสวนชวยลดความเค็มของดินโดยทางออม คือ ปรับปรุงคุณสมบัติของดินใหรวนซุยโปรง
ั
ื่
ขึ้น ทำใหการชะลางเกลือจากหนาดินลงดานลางงายขึ้น ความเค็มของดินลดลง วิธีการปลูกโสนอฟริกนเพอใช
ั
เปนปุยพืชสด ดังนี้
- ระยะเวลาปลูก ควรปลูกในชวงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน เพื่อใหโสนอัฟริกน
ั
เจริญเติบโตดี และใหมวลชีวภาพสูง
- การเตรียมดิน ควรไถพรวน 1 ครั้ง เพื่อใหดินอยูในสภาพที่เหมาะสมกับการ
เจริญเติบโตของพืช หรือหวานเมล็ดโดยไมมีการไถพรวน
- อัตราเมล็ด 5 กิโลกรัมตอไร เนื่องจากเมล็ดโสนอัฟริกันมีเปลือกหนาและแขง
็
ทำใหเปอรเซ็นตการงอกต่ำ ดังนั้น กอนการปลูกควรแชเมล็ดโสนในน้ำเดือด 1 นาที แลวแชในน้ำเย็น เพื่อให
การงอกสม่ำเสมอและรวดเร็ว โรยเมล็ดโสนอัฟริกัน เปนแถวหรือหวานใหทั่วแปลง
- โดยทั่วไปจะสับกลบเมื่อโสนอัฟริกันอายุประมาณ 60 วัน หรือระยะเตรียม
พื้นที่ปลูกขาว สามารถปกดำขาวไดเมื่อมีปริมาณน้ำเพยงพอ
ี
(4) การปลูกตนไมโตเร็วบนคันนา
นาดินเค็มนอยและเค็มปานกลางมักมีน้ำใตดินเค็มอยูตื้นใกลผิวดิน การปลูกตนไมบน
็
คันนาพื้นที่ดินเค็ม เชน กระถินออสเตรเลีย สะเดา ขี้เหล็ก และยูคาลิปตัส สามารถควบคุมระดับน้ำใตดินเคม
ใหอยูที่ความลึกจากผิวดิน คราบเกลือบนผิวดินลดลง และใบไมที่รวงหลนบนดินยังเปนอินทรียวัตถุเพิ่มความ
อุดมสมบูรณดินได
(5) การปรับปรุงบำรุงดินเค็มเพื่อปลูกพืชผักทนเค็ม
ในพื้นที่ดินเค็มนอยและเค็มปานกลางที่น้ำไมทวม หรือหลังเก็บเกี่ยวขาวแลวมีน้ำ
พอเพยง สามารถปรับปรุงบำรุงดินแลวปลูกพืชเศรษฐกิจทนเค็มได โดยดำเนินการดังนี้
ี
- ปรับปรุงดินบำรุงดวยอินทรียวัตถุ คือ แกลบ ปุยคอก ปุยหมัก ปุยพืชสด
. - เลือกปลูกพืชทนเค็มที่เหมาะสมกับระดับความเค็มของดิน เชน หนอไมฝรั่ง มะเขือเทศ
กุยชาย แตง แคนตาลูป บล็อคโคลี่ คะนา
- ใหน้ำระบบน้ำหยด จะชวยควบคุมความชื้นดิน ความเค็มดิน และประหยัดน้ำไดดี
- ควรมีการคลุมดินหลังปลูกเพื่อรักษาความชื้นและปองกันการสะสมของเกลือที่ผิวดิน
1.4 ดินที่มีชั้นดานดินเหนียว มีเนื้อที่ 266,988 ไร หรือรอยละ 6.15 ของพื้นที่จังหวัด
แบงเปนในที่ลุม มีเนื้อที่ 50,531 ไร หรือรอยละ 1.16 ของเนื้อที่จังหวัด และในที่ดอน มีเนื้อที่ 216,457 ไร
หรือรอยละ 4.99 ของเนื้อที่จังหวัด พบในสภาพพื้นที่เปนที่ราบเรียบหรือคอนขางราบเรียบถงลูกคลื่นลอนลาด
ึ
เล็กนอย ดินลึก การระบายน้ำคอนขางเลวถงดีปานกลาง เนื้อดินบนเปนดินรวนปนทราย ปฏิกิริยาดินเปนกรด
ึ
รุนแรงมากถึงกรดปานกลาง เนื้อดินลางเปนดินรวนเหนียวปนทรายถึงเหนียว ปฏิกิริยาดินเปนกรดรุนแรงมาก
ถึงกรดเล็กนอย ดินมีความอุดมสมบูรณตามธรรมชาติต่ำ
แนวทางในการจัดการ
ิ
การเกิดดินดานมีสาเหตุการเกิดที่แตกตางกัน ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่เกด
จากมนุษย นอกจากนี้ยังพบวา ชั้นดานที่เกิดขึ้นมีระดับความลึกแตกตางกันดวย ขึ้นอยูกับสภาพการใช
ประโยชนที่ดินและการเกษตรกรรม ดังนั้น แนวทางการจัดการและปองกันการเกิดชั้นดานจึงแตกตางกน
ั
ออกไป ตามสภาพของชั้นดานที่เกิดขึ้นและความเหมาะสมของแตละสภาพพื้นที่ ซึ่งโดยทั่วไปแนวทางการ
จัดการบนพื้นที่ดินดานมีวิธีการดังตอไปนี้