Page 297 - โครงการศึกษาการจัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศพืชบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของประเทศไทย
P. 297
3-3
สามารถบ่งบอกว่าสินค้าที่เกิดจากแหล่งภูมิศาสตร์นั้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ชื่อเสียง หรือคุณลักษณะ
เฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นการพิจารณาโดยมุ่งเน้นที่ตัวสินค้าเป็นส าคัญ
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ขอขึ้นทะเบียนส าหรับสินค้าใดต้องไม่มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง
ดังต่อไปนี้ คือ
1) เป็นชื่อสามัญของสินค้าที่จะใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นั้น เพราะมีวัตถุประสงค์ที่จะให้มี
ลักษณะเฉพาะที่จะเป็นการบ่งชี้ถึงแหล่งของสินค้านั้นๆ หากระบุชื่อสามัญจะท าให้ไม่มีการบ่งชี้ถึง
แหล่งที่มาของสินค้านั้น
2) เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
หรือนโยบายแห่งรัฐเพราะไม่ต้องการส่งเสริมให้มีสิ่งบ่งชี้ดังกล่าว
กรณีที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของต่างประเทศ พ.ร.บ.นี้ก็ให้ความคุ้มครองเช่นกัน แต่ต้อง
ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศนั้น
และใช้สืบเนื่องตลอดมาจนถึงวันยื่นค าขอขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ได้ก าหนดบุคคลหรือหน่วยงานที่มี
สิทธิขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ดังนี้
1) ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือองค์กรอื่น
ของรัฐที่เป็นนิติบุคคลซึ่งมีเขตรับผิดชอบครอบคลุมบริเวณแหล่งภูมิศาสตร์ของสินค้า
2) บุคคลธรรมดา กลุ่มบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการค้าเกี่ยวข้องกับสินค้าที่ใช้
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และมีถิ่นที่อยู่ในแหล่งภูมิศาสตร์ของสินค้า
3) กลุ่มผู้บริโภคหรือองค์กรผู้บริโภคสินค้าที่ใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
ค าขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับคุณภาพ ชื่อเสียงหรือ
คุณลักษณะอื่นของสินค้า แหล่งภูมิศาสตร์และรายละเอียดอื่นที่ก าหนดในกฎกระทรวงและเมื่อพนักงาน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ ให้ท ารายงานผลการตรวจสอบเสนอความเห็น
ต่อนายทะเบียนซึ่งในการพิจารณาค าขอของพนักงานเจ้าหน้าที่นี้อาจมีการเรียกให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือ
ผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยค าชี้แจงหรือแสดงหลักฐานเพิ่มเติมและอาจส่งเรื่องให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาให้
ความเห็นประกอบด้วยก็ได้
ในกรณีที่นายทะเบียนมีค าสั่งยกค าขอขึ้นทะเบียน ผู้ขอขึ้นทะเบียนมีสิทธิอุทธรณ์ค าสั่งของ
นายทะเบียนต่อคณะกรรมการ และหากยังไม่เห็นด้วยกับค าวินิจฉัยของคณะกรรมการ ผู้ขอขึ้นทะเบียน
ก็มีสิทธิน าคดีขึ้นไปสู่ศาลได้ภายในระยะเวลาที่ก าหนด
ในกรณีที่ค าขอขึ้นทะเบียนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ให้นายทะเบียนมีค าสั่งประกาศโฆษณาการ
รับขึ้นทะเบียนและภายในเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศโฆษณา บุคคลผู้มีส่วนได้เสียอาจยื่นค าคัดค้านการ
รับขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ได้ ซึ่งเมื่อมีการคัดค้านผู้ขอขึ้นทะเบียนต้องยื่นค าโต้แย้งค าคัดค้าน
นั้นภายในเวลาที่ก าหนด เมื่อนายทะเบียนพิจารณาค าร้องคัดค้านและค าโต้แย้งแล้วก็จะมีค าวินิจฉัยซึ่ง
สามารถอุทธรณ์ค าวินิจฉัยของนายทะเบียนต่อคณะกรรมการได้และหากไม่เห็นด้วยกับค าวินิจฉัยของ
คณะกรรมการก็สามารถน าคดีไปสู่ศาลได้
กรณีที่ไม่มีการคัดค้านหรือมีการคัดค้านแต่กระบวนการสิ้นสุดแล้วให้นายทะเบียนขึ้นทะเบียน
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และให้การคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์มีผลตั้งแต่วันยื่นค าขอจดทะเบียน