Page 67 - land use change
P. 67
56
4) พื้นที่ไม้ผล
พื้นที่ไม้ผล ใน พ.ศ. 2555 และ พ.ศ. 2561 มีพื้นที่ 18,991 และ 21,703 ไร่ คิดเป็นร้อยละ
1.44 และ 1.65 ของพื้นที่ลุ่มน้ าทั้งหมด ตามล าดับ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวพบว่า พื้นที่ไม้ผลมีพื้นที่
เพิ่มขึ้น 2,712 ไร่ หรือร้อยละ 14.28 ของพื้นที่เดิม พบว่า พื้นที่ไม้ผลยังคงพื้นที่เดิม 12,017 ไร่ และ
เปลี่ยนแปลงมาจากการใช้ที่ดินพื้นที่พืชไร่มากที่สุด 5,818 ไร่ ซึ่งพบมากบริเวณต าบลผาช้างน้อย
อ าเภอปง ต าบลบ้านมาง ต าบลสระ อ าเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา รองลงมาพื้นที่ไม้ยืนต้น 2,748 ไร่
บริเวณต าบลสะเอียบ อ าเภอสอง จังหวัดแพร่ และต าบลบ้านมาง อ าเภอเชียงม่วน ต าบลผาช้างน้อย
อ าเภอปง จังหวัดพะเยา ตามล าดับ ในขณะเดียวกันพื้นที่ไม้ผล ใน พ.ศ. 2555 นั้น มีการเปลี่ยนแปลง
ไปเป็นพื้นที่ไม้ยืนต้นมากที่สุด 2,819 ไร่ พบมากบริเวณต าบลผาช้างน้อย ต าบลนาปรัง อ าเภอปง
และบ้านมาง อ าเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา รองลงมา พื้นที่พืชไร่ 2,696 ไร่ พบมาก บริเวณต าบล
ผาช้างน้อย ต าบลนาปรัง อ าเภอปง จังหวัดพะเยา โดยไม้ผลที่นิยมปลูกมากในลุ่มน้ า ได้แก่ ล าไย ลิ้นจี่
รองลงมาคือพื้นที่ปลูกมะขาม ส้มโอ และมะม่วง ซึ่งแหล่งปลูกไม้ผลอยู่ในเขตต าบลผาช้างน้อย ต าบลงิม
ต าบลนาปรัง อ าเภอปง จังหวัดพะเยา และต าบลสะเอียบ อ าเภอสอง จังหวัดแพร่ โดยพื้นที่ไม้ผล
ที่ปลูกล าไยนั้น ส่วนมากนิยมปลูกสายพันธุ์ดอหรืออีดอ ส่วนพื้นที่ปลูกลิ้นจี่นั้นเกษตรกรนิยมปลูก
ได้แก่ พันธุ์ฮงฮวย พันธุ์โอเฮียะ พันธุ์จักรพรรดิและพันธุ์กิมเจง ทั้งนี้พื้นที่ลุ่มน้ ามีสภาพภูมิประเทศ
และสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม โดยเป็นที่ราบเชิงเขาและอยู่ระหว่างหุบเขาอากาศมีความหนาวเย็น
เกือบตลอดทั้งปี และพื้นที่ดินมีความลาดเท ระบายน้ าได้ดี (ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด
พะเยา, 2561) และเนื่องจากปัจจัยทางด้านการตลาดและความต้องการของตลาดถือเป็นปัจจัยส าคัญ
ที่มีผลต่อการวางแผนปลูกพืชให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะไม้ผล ได้แก่ ล าไย
และลิ้นจี่ ซึ่งมีการคัดเกรดก่อนส่งออก โดยเกรดรองจ าหน่ายในประเทศ และเกรดร่วงคละจ าหน่ายเข้า
โรงงานท าล าไยหรือลิ้นจี่กระป๋อง โดยในช่วงต้นฤดูที่ล าไย ลิ้นจี่ เริ่มออกสู่ตลาดราวปลายเดือน
เมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม พ่อค้าจะรับซื้อเพื่อส่งออกในราคาที่สูงมาก ตลาดส่งออกยังมีความ
ต้องการสูง อีกทั้งผลผลิตในตลาดยังมีไม่มากนัก โดยส่วนมากจะส่งออกไปจ าหน่ายไปที่สาธารณรัฐ
สังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นต้น (กรมศุลกากร, 2561)
ตลอดจนในพื้นที่มีโรงงานแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรจ านวนมากกระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ลุ่มน้ า
จึงท าให้มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินในพื้นที่เป็นพื้นที่ไม้ผลเพิ่มขึ้นเป็นจ านวนมาก เนื่องจากราคา
ผลผลิตดี นอกจากนี้ยังมีไม้ผลอื่น ๆ ที่เกษตรกรปลูกหลายชนิด ได้แก่ กล้วย ฝรั่ง มะละกอ ทุเรียน
เงาะ มะพร้าว และไม้ผลผสม (ภาพที่ 17)
52

