Page 99 - รายงานสำรวจทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับท้องถิ่น จังหวัดสกลนคร
P. 99
5-15
4) พระราชบัญญัติอุทยานแหงชาติ พ.ศ. 2504 กฎหมายฉบับนี้ มีวัตถุประสงคหลักในการ
ิ
ิ
คุมครองทรัพยากรธรรมชาตและสิ่งแวดลอมที่อยูในบริเวณเขตอุทยานแหงชาต ดังนั้น พื้นที่ชุมน้ำใด ๆ
ที่อยูในบริเวณเขตอุทยานแหงชาติจะไดรับการคุมครองภายใตบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้รวมทงชนิด
ั้
พันธุตาง ๆ ไมวาจะเปนชนิดพันธุพืชหรือชนิดพันธุสัตวก็ไดรับการคุมครองเชนกัน อยางไรก็ตาม
บทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้คอนขางเครงครัด ทำใหการใชประโยชนใด ๆ จากพื้นที่ชุมน้ำที่อยูใน
บริเวณเขตอุทยานแหงชาติไมสามารถกระทำไดนอกจากการใชประโยชนเพื่อการพักผอนหยอนใจ
กิจกรรมนันทนาการหรือการศึกษาวิจัยเทานั้น
่
ื
5) พระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ พ.ศ. 2507 กฎหมายฉบับนี้ มีวัตถุประสงคเพอ
้
ิ
ั
ื
ุ
่
ี
คมครองปาสงวนแหงชาติและทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตปาสงวนแหงชาต ดงนัน พ้นทชุมน้ำใด ๆ
ที่อยูภายในเขตปาสงวนแหงชาติจะไดรับการคุมครองตามบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้แตอยางไรก็ตาม
กฎหมายฉบับนี้ยังประสบปญหาในเรื่องของการบังคับใชเนื่องจากผูครอบครองที่ดินหรือใชประโยชนใน
บริเวณปาสงวนแหงชาติกอนการประกาศเปนเขตปาสงวนแหงชาติยังคงมีสิทธิ์ในการใชประโยชนใน
ที่ดินตอไป อันสงผลใหเกิดการคุกคามพื้นที่ชุมน้ำได
ุ
6) พระราชบัญญัติสงวนและคมครองสัตวปา พ.ศ. 2535 กฎหมายฉบับนีสามารถนำมาใช
้
เปนเครื่องมือในการจัดการและอนุรักษพื้นทีชุมน้ำได โดยมีบทบัญญัติในการคุมครองพื้นที่ชุมน้ำใด ๆ
่
ที่อยูในบริเวณเขตรักษาพันธุสัตวปาและเขตหามลาสัตวปา นอกจากนี้ยังมีบทบัญญัติในการคุมครอง
ชนิดพันธุโดยการออกกฎกระทรวงกำหนดบัญชีรายชื่อสัตวปาสงวนและสัตวปาคุมครอง รวมทั้งม ี
่
ิ
บทบัญญัติในการอนุวัตการตามอนุสัญญาวาดวยการคาระหวางประเทศซึงชนิดสัตวปาและพืชปาที่ใกล
สูญพันธุอีกดวย ถือวาเปนกฎหมายโดยตรงที่มีบทบาทและความสำคัญตอการพิทักษรักษาธรรมชาติ
ประเภท สัตวปา และคุมครองสิ่งแวดลอมอันเปนที่อยูของสัตวปามิใหถูกกระทบกระเทือน ซึ่งหาก
พิจารณาเปรียบเทียบกับกฎหมายวาดวยปาไมกฎหมายวาดวยอุทยานแหงชาติและกฎหมายวาดวย
้
ปาสงวนแหงชาตตามที่กลาวมาขางตน จะเห็นไดวากฎหมายเหลานีจะมมาตรการคมครองในภาพรวม
ี
ุ
ิ
ที่มุงพิทักษรักษา“ปา” “ไม”และ“ของปา” มากกวาการบริหารจัดการดูแลพื้นที่ชุมน้ำในภาพรวม
7) พระราชบัญญัติประมง พ.ศ. 2490 แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดประมง พ.ศ. 2558
กฎหมายฉบับนี้ถูกตราขึ้นเพื่อใหเกิดประโยชนกับการประกอบอาชีพประมง โดยการใหความคุมครอง
แหลงน้ำที่ใชประกอบอาชีพประมงซึ่งพื้นที่ “ที่จับสัตวน้ำ” นั้นและอยูในความดูแลของกรมประมง ม ี
การกำหนดใหพื้นที่แหลงน้ำทั้งหมดทั่วประเทศไทย ไมวาจะเปนแหลงน้ำจืด แหลงน้ำกรอยและแหลงน้ำ
ทะเลเปน “ที่จับสัตวน้ำ” ซึ่งแบงเปน 4 ประเภท คือ ที่รักษาพันธุพืช ที่วาประมูล ที่อนุญาต และท ี ่
สาธารณประโยชน ดังนั้น พื้นที่ชุมน้ำก็ตกอยูภายใตบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้ซึ่งบทบัญญัติดังกลาว
สามารถใชเปนเครื่องมือในการบริหารจัดการคุมครองพื้นที่ชุมน้ำ โดยการประกาศใหพื้นที่ชุมน้ำเปนท ่ ี
รักษาพืชพันธุ ซึ่งกฎหมายจะคุมครอง โดยการหามมิใหทำการประมง หรือเพาะเลี้ยงสัตวน้ำ ในเขตท ่ ี
รักษาพันธุพืช นอกจากนี้พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 ยังมีบทบัญญัติในการรักษาคุณภาพ
ั
สิ่งแวดลอมของแหลงน้ำตาง ๆ ซึ่งรวมถึงพื้นที่ชุมน้ำดวย กับรวมทั้งบทบัญญัติในการคุมครองชนิดพนธุ
ื
่
ี
ุ
ั
ี
สัตวน้ำที่ใกลสูญพันธุ ซึ่งสามารถใชเปนเครื่องมอในการคมครองชนิดพันธุสัตวน้ำใด ๆ ท่ใกลสูญพนธุทม ี
แหลงที่อยูอาศัยในบริเวณพื้นที่ชุมน้ำได