Page 73 - รายงานสำรวจทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับท้องถิ่น จังหวัดนนทบุรี
P. 73
5-13
4) พระราชบัญญัติอุทยานแหงชาติ พ.ศ. 2504 กฎหมายฉบับนี้ มีวัตถุประสงคหลักในการ
คุมครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ที่อยูในบริเวณเขตอุทยานแหงชาติดังนั้น พื้นที่ชุมน้ำใดๆ ท ี่
ิ
อยูในบริเวณเขตอุทยานแหงชาตจะไดรับการคุมครองภายใตบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้รวมทั้งชนิด
พันธุตางๆ ไมวาจะเปนชนิดพันธุพืชหรือชนิดพันธุสัตวก็ไดรับการคุมครองเชนกัน อยางไรก็ตาม
บทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้คอนขางเครงครัด ทำใหการใชประโยชนใดๆ จากพื้นที่ชุมน้ำที่อยูใน
บริเวณเขตอุทยานแหงชาติไมสามารถกระทำไดนอกจากการใชประโยชนเพื่อการพักผอนหยอนใจ
กิจกรรมนันทนาการหรือการศึกษาวิจัยเทานั้น
5) พระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ พ.ศ. 2507 กฎหมายฉบับนี้ มีวัตถุประสงคเพือคุมครองปา
่
สงวนแหงชาติและทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตปาสงวนแหงชาติ ดังนั้น พื้นที่ชุมน้ำใดๆ ที่อยูภายใน
ุ
เขตปาสงวนแหงชาติจะไดรับการคมครองตามบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้แตอยางไรกตาม กฎหมาย
็
ี่
ฉบับนี้ยังประสบปญหาในเรื่องของการบังคับใชเนื่องจากผูครอบครองทดินหรือใชประโยชนในบริเวณปา
สงวนแหงชาติกอนการประกาศเปนเขตปาสงวนแหงชาติยังคงมีสิทธิ์ในการใชประโยชนในที่ดินตอไป
อันสงผลใหเกิดการคุกคามพื้นที่ชุมน้ำได
6) พระราชบัญญัติสงวนและคุมครองสัตวปา พ.ศ. 2535 กฎหมายฉบับนี้สามารถนำมาใชเปน
ี่
ื้
เครื่องมือในการจัดการและอนุรักษพื้นที่ชุมน้ำได โดยมีบทบัญญัติในการคุมครองพนที่ชุมน้ำใดๆ ทอยูใน
ั
บริเวณเขตรักษาพันธุสัตวปาและเขตหามลาสัตวปา นอกจากนี้ยังมีบทบัญญัติในการคุมครองชนิดพนธุ
โดยการออกกฎกระทรวงกำหนดบัญชีรายชื่อสัตวปาสงวนและสัตวปาคุมครอง รวมทั้งมีบทบัญญัติใน
การอนุวัติการตามอนุสัญญาวาดวยการคาระหวางประเทศซึ่งชนิดสัตวปาและพืชปาที่ใกลสูญพันธุอก
ี
ดวย ถือวาเปนกฎหมายโดยตรงที่มีบทบาทและความสำคัญตอการพิทักษรักษาธรรมชาติประเภท
สัตวปา และคุมครองสิ่งแวดลอมอันเปนที่อยูของสัตวปามิใหถูกกระทบกระเทือน ซึ่งหากพิจารณา
เปรียบเทียบกับกฎหมายวาดวยปาไมกฎหมายวาดวยอุทยานแหงชาติและกฎหมายวาดวยปาสงวน
ิ
ี่
ุ
ุ
แหงชาติตามที่กลาวมาขางตน จะเห็นไดวากฎหมายเหลานี้จะมีมาตรการคมครองในภาพรวมทมงพทกษ
ั
รักษา“ปา” “ไม”และ“ของปา” มากกวาการบริหารจัดการดูแลพื้นที่ชุมน้ำในภาพรวม
7) พระราชบัญญัติประมง พ.ศ. 2490 แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดประมง พ.ศ. 2558
กฎหมายฉบับนี้ถูกตราขึ้นเพื่อใหเกิดประโยชนกับการประกอบอาชีพประมง โดยการใหความคุมครอง
แหลงน้ำที่ใชประกอบอาชีพประมงซึ่งพื้นที่ “ที่จับสัตวน้ำ” นั้นและอยูในความดูแลของกรมประมง ม ี
การกำหนดใหพื้นที่แหลงน้ำทั้งหมดทั่วประเทศไทย ไมวาจะเปนแหลงน้ำจืด แหลงน้ำกรอยและแหลงน้ำ
่
ทะเลเปน “ที่จับสัตวน้ำ” ซึ่งแบงเปน 4 ประเภท คือ ที่รักษาพันธุพืช ที่วาประมูล ทอนุญาต และท ่ ี
ี
สาธารณประโยชน ดังนั้น พื้นที่ชุมน้ำก็ตกอยูภายใตบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้ซึ่งบทบัญญัติดังกลาว
สามารถใชเปนเครื่องมือในการบริหารจัดการคุมครองพื้นที่ชุมน้ำ โดยการประกาศใหพื้นที่ชุมน้ำเปนท ี ่
รักษาพืชพันธุ ซึ่งกฎหมายจะคุมครอง โดยการหามมิใหทำการประมง หรือเพาะเลี้ยงสัตวน้ำ ในเขตท ่ ี
รักษาพันธุพืช นอกจากนี้พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 ยังมีบทบัญญัติในการรักษาคุณภาพ
สิ่งแวดลอมของแหลงน้ำตางๆ ซึ่งรวมถึงพื้นที่ชุมน้ำดวย กับรวมทั้งบทบัญญัติในการคุมครองชนิดพันธุ
สัตวน้ำที่ใกลสูญพันธุ ซึ่งสามารถใชเปนเครื่องมอในการคุมครองชนิดพันธุสัตวน้ำใดๆ ที่ใกลสูญพันธุท่ม ี
ี
ื
แหลงที่อยูอาศัยในบริเวณพื้นที่ชุมน้ำได