Page 26 - รายงานสำรวจทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับท้องถิ่น จังหวัดนนทบุรี
P. 26

3-4





                                                                                                      
                  ดังนั้น ความหมายของพื้นที่ชุมน้ำจึงครอบคลุมถึงทุกพื้นที่ซึ่งมีลักษณะทางภูมิประเทศเปนที่ราบลุม
                                            ี่
                  พื้นที่ชื้นแฉะ หรือเปนแหลงน้ำทมีระดับน้ำเปลี่ยนแปลงไดตลอดเวลา มีการไหลเวียนของน้ำตามฤดูกาล
                  หรืออาจมีระดับน้ำขังคงที่ถาวร รวมไปถึงบริเวณริมชายฝงทะเลและพื้นที่ในทะเลบางสวนที่มีความลึก
                  หรือระดับน้ำไมเกิน 6 เมตร เมื่อกระแสน้ำลดลงถึงจุดต่ำสุด

                      3.1.6 พื้นที่ชุมน้ำทางทะเลและชายฝง (Marine and Coastal Wetlands) หมายถึง บริเวณใน
                  ทะเลและริมชายฝงทะเล ซึ่งเปนพื้นที่ที่ไมอยูภายใตอิทธิพลของกระแสน้ำจากแมน้ำ เชน ทะเลสาบ
                  น้ำเค็ม (Lagoon) หาดทราย (Beach) และแนวปะการัง (Coral Reef) เปนตน
                      3.1.7 ปากแมน้ำหรือชวากทะเล (Estuarine) หมายถึง พื้นที่ซึ่งมีแมน้ำและทะเลมาบรรจบกน
                                                                                                      ั
                  ลักษณะของน้ำจึงเปนน้ำกรอย เชน ดินดอนสามเหลี่ยมปากแมน้ำ (Delta) ที่ราบลุมน้ำทวมถึง (Tidal
                                                                               
                  Marsh) ปาชายเลน (Mangrove Forest) หาดโคลน (Mud Flat) และแหลงหญาทะเล (Seagrass Bed) เปนตน
                      3.1.8 ทะเลสาบหรือบึง (Lacustrine) หมายถึง แหลงน้ำขนาดใหญที่มีน้ำขังถาวรหรือมีน้ำขง ั
                  ตามฤดูกาล อาจมีกระแสน้ำไหลเพียงเล็กนอย เชน ทะเลสาบและบึงตาง ๆ

                      3.1.9 แมน้ำและแหลงน้ำไหล (Riverine) หมายถึง แมน้ำ ลำธาร ลำหวย และลำคลองที่มีน้ำ
                                                                                 
                  ไหลตลอดทั้งป รวมถึงพื้นที่ราบลุมริมชายฝงแมน้ำตลอดสายและสันทรายแมน้ำ
                      3.1.10  หนองน้ำ (Palustrine) หมายถึง พื้นที่ซึ่งมีน้ำทวมขังอยูตลอดหรือมีน้ำทวมขังตาม
                                                                                                      ้
                  ฤดูกาล มีความลึกไมเกิน 2 เมตร และมีพืชน้ำปกคลุมมากกวารอยละ 30 ของพื้นผิวน้ำ เชน ที่ลุมชืน
                  แฉะ (Marsh) พรุ (Bog) และมาบ (Swamp) เปนตน
                                           ี่
                      3.1.11  พื้นที่ชุมน้ำทมนุษยสรางขึ้น (Human-made Wetlands) เชน อางเก็บน้ำ สระน้ำ
                  บอเลี้ยงสัตวน้ำ นาขาวและพนที่ทางการเกษตรซึ่งมีน้ำทวมขัง
                                          ื้
                      3.1.12  อนุสัญญาแรมซาร (Ramsar Convention)

                                                                                                      ู
                       อนุสัญญาแรมซาร หรืออนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ำที่มีความสำคัญระหวางประเทศ ไดถก
                  กำหนดและตั้งชื่อตามชื่อสถานที่จัดใหมีการประชุมเพื่อรับรองอนุสัญญาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ พ.ศ.

                  2514 ณ เมืองแรมซาร ประเทศอิหราน อนุสัญญาดังกลาวเปนขอตกลงระหวางรัฐบาล ซึ่งกำหนดกรอบ
                                                                            ่
                                                                            ี
                                                                               
                                                           ่
                                                           ื
                                          ื
                                                                                             ี
                                                                                          ื
                                                                                             ่
                  การทำงานสำหรับความรวมมอระหวางประเทศเพอการอนุรักษแหลงทอยูอาศัยทเปนพนทชุมน้ำ โดยม ี
                                                                                              
                                                                                     ่
                                                                                     ี
                                                                                          ้
                                                                                             ั
                                                                                   
                                                                                       ี่
                                                                                    ิ่
                  วัตถุประสงคเพอการอนุรักษและการใชประโยชนพนที่ชุมน้ำอันเปนการอนุรักษถนทอยูอาศยของนกน้ำ
                                         
                               ื่
                                                            ื้
                  ตอมาขอบเขตการดำเนินการของอนุสัญญาฯ ไดขยายครอบคลุมกวางขึ้นโดยเนนการอนุรักษและการใช
                                                                                              
                                                                                                ี่
                                                                                             ื้
                  ประโยชนของพื้นที่ชุมน้ำอยางชาญฉลาดในทกๆ ดาน ตลอดจนเพอยับยั้งการสูญหายของพนทชุมน้ำใน
                                                       ุ
                                                                        ื่
                                                                          ื
                                                                                             
                  โลก โดยมีพันธกิจที่สำคัญในการดำเนินงานระดับชาติโดยความรวมมอระดับนานาชาติเพอกอใหเกดการ
                                                                                           ื่
                                                                                                  ิ
                  พัฒนาอยางยั่งยืนในทุกภูมิภาคของโลก อนุสัญญาฯ มีผลบังคับใชเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2514
                  และเพื่อใหเกิดความตระหนักถึงคุณคาและความสำคัญของพื้นที่ชุมน้ำ จึงไดกำหนดใหทุกวันที่ 2
                  กุมภาพันธของทุกปเปนวันพื้นที่ชุมน้ำโลก (World Wetlands Day)
                      3.1.13  คุณคาและความสำคัญของพื้นที่ชุมน้ำ
                       พื้นที่ชุมน้ำยังเปนรากฐานสำคัญของระบบนิเวศและการบริการของระบบนิเวศ (Ecosystem
                  Service) ทั้งการเปนแหลงกักเก็บน้ำฝนและน้ำทาที่ชวยปองกันอุทกภัยและบรรเทาความแหงแลง เปน
                  พื้นที่ซึ่งสามารถชวยปองกันชายฝงทะเลจากการกัดเซาะและการพังทลาย ปองกันคลื่นและลมทะเล
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31