Page 25 - รายงานสำรวจทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับท้องถิ่น จังหวัดนนทบุรี
P. 25

3-3





                  องคประกอบ ดังนี้ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ ทรัพยากรที่มนุษยสรางขึ้น  และทรัพยากร

                                                                                            ี
                  คุณภาพชีวิต (สังคมสิ่งแวดลอม) ซึ่งทรัพยากรเหลานี้อยูรวมกันอยางกลมกลืนเปนลุมน้ำที่มลักษณะและ
                  แสดงบทบาทเฉพาะ จึงมักเรียกลุมน้ำเปนทรัพยากรลุมน้ำ หรือระบบทรัพยากร ประเทศไทยมี 22

                  ลุมน้ำหลัก ดังนี้ (1) ลุมน้ำสาละวิน (2) ลุมน้ำโขงเหนือ (3) ลุมน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ (4) ลุมน้ำชี
                  (5) ลุมน้ำมูล (6) ลุมน้ำปง (7) ลุมน้ำวัง (8) ลุมน้ำยม (9) ลุมน้ำนาน (10) ลุมน้ำเจาพระยา (11) ลุมน้ำ

                  สะแกกรัง (12) ลุมน้ำปาสัก (13) ลุมน้ำทาจีน (14) ลุมน้ำแมกลอง (15) ลุมน้ำบางปะกง (16) ลุมน้ำ
                                                                      
                                                                                   ี
                                                                                     ั
                  โตนเลสาบ (17) ลุมน้ำชายฝงทะเลตะวันออก (18) ลุมน้ำเพชรบุรี – ประจวบครีขนธ (19) ลุมน้ำภาคใต
                  ฝงตะวันออกตอนบน (20) ลุมน้ำทะเลสาบสงขลา (21) ลุมน้ำภาคใตฝงตะวันออกตอนลางและ (22)
                  ลุมน้ำภาคใตฝงตะวันตก (ฐิติพนธ, 2564)
                                           ั
                       “การจัดการลุมน้ำ” หมายถึง การจัดการใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติทกๆอยาง ภายในพนท ี่
                                                                                                    ื้
                                                                                     ุ
                                                                                                ื้
                                                                                                   ี่
                                                                                                     ื
                  ลุมน้ำแบบผสมผสาน โดยเฉพาะทรัพยาการที่ดิน ไดแก พื้นที่ปาไม เกษตรกรรม แหลงน้ำ ชุมชน พนทเมอง
                                                                                     ี่
                                                                          ุ
                  ใหมีสัดสวนการกระจายตัวที่เหมาะสม มีมาตรการปองกันและควบคมผลกระทบทอาจจะเกิดจากการใช
                                                                                                      
                  อยางไมถูกวิธี และมีการปรับปรุงหรือฟนฟูสวนที่เสื่อมโทม ใหลุมน้ำนั้นยังคงทำหนาที่สนองตอบตอ
                  ความตองการทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย โดยเฉพาะ ทรัพยากรดิน น้ำ ปาไมไดอยางยืนยาว สิ่งทจะ
                                                                                                     ี่
                  บงบอกถึงผลผลสัมฤทธิ์ของการจัดการดูจาก ปริมาณน้ำที่เพียงพอ ชวงเวลาการไหลสม่ำเสมอและ
                  คุณภาพดี รวมถึงคุณภาพชีวิตความเปนอยูที่ดีของคนทอาศัยอยูในพื้นที่ลุมน้ำดวย
                                                               ี่
                       “การจัดการลุมน้ำอยางมีสวนรวม” หมายถึง การจัดการใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติทุกๆ
                  อยาง ภายในพื้นที่ลุมน้ำรวมกันของผูมีสวนไดเสีย ตั้งแตรวมกันกำหนดขอบเขตพื้นที่ลุมน้ำที่ตองการ
                  จัดการ รวมกันคิดวิเคราะหสถานการณ รวมกันตัดสินใจกำหนดทิศทางการการจัดการ รวมกันลงมือฏิบัต  ิ

                                                                                     ่
                                                                                             ี
                                                                                          
                                                                                       ึ
                                                                                     ั
                  รวมกับรับผิดชอบผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้น และรวมกนจัดสรรผลประโยชนอยางทวถงเทาเทยม
                                                               ั
                                                                                                      ้
                      3.1.5 พื้นที่ชุมน้ำ (Wetlands)  หมายถึง ที่ลุม ที่ราบลุม ที่ชื้นแฉะ พรุ แหลงน้ำ ทั้งที่เกิดขน
                                                                                                      ึ
                  เองตามธรรมชาติและที่มนุษยสรางขึ้น ทั้งที่มีน้ำขัง หรือ น้ำทวมอยูถาวรและชั่วครั้งชั่วคราว ทั้งที่เปน
                  แหลงน้ำนิ่ง และน้ำไหล ทั้งที่เปนน้ำจืด น้ำกรอย และน้ำเค็ม รวมไปถึงชายฝงทะเล และที่ในทะเลใน
                  บริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดลงต่ำสุด มีความลึกของระดับน้ำไมเกิน 6 เมตร"
                       "พื้นที่ซึ่งมีลักษณะจัดไดวาเปนพื้นที่ชุมน้ำ จึงรวมถึง หวย หนอง คลอง บึง บอ กระพัง (ตระพัง)
                  บาราย แมน้ำ ลำธาร แคว ละหาน ชานคลอง ฝงน้ำ สบธาร สระ ทะเลสาบ แองลุม กุด ทุง กวาน มาบ
                  บุง ทาม สนุน แกง น้ำตก หาดหิน หาดกรวด หาดทราย หาดโคลน หาดเลน ชายทะเล ชายฝง ทะเล
                  พืดหินปะการัง แหลงหญาทะเล แหลงสาหรายทะเล คุง อาว ดินดอนสามเหลี่ยม ชองแคบ ชะวากทะเล
                  ตะกาด หนองน้ำกรอย ปาพรุ ปาเลน ปาชายเลน ปาโกงกาง ปาจาก ปาแสม รวมทั้งนาขาว นากุง

                  นาเกลือ บอปลา อางเก็บน้ำ เปนตน ตามอนุสัญญาแรมซาร (Ramsar Convention) หรืออนุสัญญาวา
                  ดวยพื้นที่ชุมน้ำ (ในมาตรา 1.1 และมาตรา 2.1 ของอนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ำ)
                       พื้นที่ชุมน้ำ (Wetlands) คือ พื้นที่ซึ่งมีน้ำเปนปจจัยหลักในการกำหนดหรือควบคมสภาพแวดลอม
                                                                                         ุ
                  และลักษณะการดำรงอยูของสิ่งมีชีวิต โดยทั่วไปแลว พื้นที่ชุมน้ำเกดจากระดับน้ำใตดิน (Water Table)
                                                                        ิ
                  ที่มีระดับอยูใกลกับผิวดินมาก สงผลใหปริมาณน้ำเออลนขึ้นมา หรืออาจถูกน้ำทวมขังเปนบริเวณกวาง
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30