Page 17 - Chumphon
P. 17
1-7
1.5.11 การชะลางพังทลายของดิน ตามพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ. 2551 การชะลาง
พังทลายของดิน หมายความวา ปรากฏการณซึ่งที่ดินถูกชะลางกัดเซาะพังทลายดวยพลังงานที่เกิดจากน้ำ
ลม หรือโดยเหตุอื่นใดใหเกิดการเสื่อมโทรม สูญเสียเนื้อดิน หรือความอุดมสมบูรณของดิน
(กรมพัฒนาที่ดิน, 2552)
1.5.12 การอนุรักษดินและน้ำ (Soil and Water Conversation) หมายถึง การใชทรัพยากรดิน
และน้ำอยางเหมาะสม ดวยวิธีการที่ชาญฉลาด คุมคา เกิดประโยชนสูงสุด และมีความยั่งยืนการนำ
มาตรการอนุรักษดินและน้ำมาใชก็เพื่อปองกัน และรักษาดินไมใหถูกชะลางพังทลายทั้งบนพื้นที่มี
ความลาดเทต่ำจนถึงพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ซึ่งปจจุบันมาตรการอนุรักษดินและน้ำที่ใชกันอยู
สามารถแบงออกตามลักษณะของมาตรการไดเปน 2 แบบ คือ มาตรวิธีกล (Mechanical Measures)
และมาตรการวิธีพืช (Vegetative Measures) การเลือกใชมาตรการใดควรพิจารณาลักษณะดิน
ลักษณะภูมิประเทศ ปริมาณน้ำฝน ตลอดจนการใชประโยชนบนพื้นที่ดิน โดยเลือกวิธีการผสมผสาน
มาตรการใหเหมาะสมเพื่อใหการทำการเกษตรเกิดความยั่งยืน เกื้อกูลกัน และสงผลใหมาตรการอนุรักษดิน
และน้ำมามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (กองอนุรักษดินและน้ำ, 2544) ตามพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ. 2551
การอนุรักษดินและน้ำ หมายความวา การกระทำใดๆ ที่มุงใหเกิดการระวังปองกันรักษาดิน และที่ดิน
ไมใหเกิดความเสื่อมโทรม สูญเสีย รวมถึงการรักษา ปรับปรุง ความอุดมสมบูรณของดินและการรักษาน้ำ
ในดินหรือบนผิวดินใหคงอยูเพื่อรักษาดุลธรรมชาติใหเหมาะสมในการใชประโยชนที่ดินในทาง
เกษตรกรรม (กรมพัฒนาที่ดิน, 2552) แบงเปน 2 มาตรการ 1) มาตรการวิธีกล หมายความวา วิธีการ
อนุรักษดินและน้ำ โดยการกอสรางโครงสรางทางวิศวกรรม โดยวิธีการไถพรวนตามแนวระดับ คันดินกั้นน้ำ
ขั้นบันไดดิน คูรับน้ำขอบเขา บอน้ำในไรนาหรืออื่นๆ และ 2) มาตรการวิธีพืช หมายความวา วิธีการ
อนุรักษดินและน้ำ โดยวิธีการทางพืช โดยการปลูกพืชหรือใชสวนใดๆ ของพืชทำใหเปนแถบหรือเปนแนว
หรือปกคลุมผิวดินหรืออื่นๆ
1.5.13 ทรัพยากรน้ำหรือน้ำ หมายถึง ของเหลวเกิดจากการรวมตัวกันของกาซไฮโดรเจนและ
กาซออกซิเจนในภาวะที่เหมาะสมหรือความหมายในลักษณะเปนทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง สิ่งที่
นำมาใชอุปโภค บริโภค ชำระลางรางกาย ใชในการเพาะปลูก การเกษตรกรรม อุตสาหกรรม
การคมนาคมทางน้ำ การผลิตพลังงาน ทรัพยากรน้ำยังเปนทรัพยากรประเภทหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้น
ทดแทนอยูตลอดเวลาเปนวัฎจักร ความสัมพันธของดิน น้ำ และปา เริ่มจากวัฏจักรของน้ำ ที่ระเหยจาก
ผิวทะเลและพื้นดินหมุนเวียนขึ้นไปในชั้นบรรยากาศในรูปของไอน้ำ ไอน้ำจะกลั่นตัวกลายเปนฝนและ
ไหลซึมลงไปในดิน สวนที่เหลือก็จะเปนน้ำไหลบนพื้นผิวดินไปตามลาดเขากลายเปนธารน้ำเล็กๆ รวมกัน
เปนแมน้ำ และไหลลงสูทะเล การระเหยของน้ำจากดินและการคายน้ำของตนไมก็เปนหนึ่งในวัฏจักรของน้ำ
ที่ทำใหเกิดความชื้นในชั้นบรรยากาศ โดยการคายน้ำของตนไมและการระเหยของน้ำจากดินจะมี
ความสัมพันธกัน อีกทั้งโครงสรางของดินในปาจะมีความสามารถในการดูดซึมน้ำสูง โดยการทำงานผาน
ระบบรากของตนไม นอกจากนี้แลวการสูญเสียน้ำจากการระเหยในพื้นที่ปาจะนอยกวาการสูญเสียน้ำ
จากการระเหยในพื้นที่แบบเดียวกันที่ไมมีตนไมปกคลุม ทำใหพื้นที่ที่ปกคลุมไปดวยตนไมอยางหนาแนน
เชน ผืนปา มีอิทธิพลตอความสมดุลของวัฏจักรน้ำเปนอยางมาก เพราะฉะนั้นการอนุรักษปาก็หมายถึง
การอนุรักษน้ำดวย เราจึงควรหันมาใหความสนใจกับการอนุรักษตนน้ำเหลานี้ซึ่งมักจะถูกปลอยปละละเลย
การกระทำของมนุษยที่มีตอดินและตนไมยอมสงผลถึงวัฏจักรของน้ำไมทางใดก็ทางหนึ่งอยางหลีกเลี่ยงมิได