Page 214 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ์ 2566
P. 214
5-24
ชุมชนไมมีคาเพื่อเกษตรกร สำหรับไมทางเศรษฐกิจ มีทั้งหมด 58 ชนิด ประกอบดวย ไมสัก พะยูง
ี
ี
ิ
ี
ชิงชัน กระซก กระพ้เขาควาย สาธร แดง ประดปา ประดบาน มะคาโมง มะคาแต เค่ยม เคยมคะนอง
ู
ู
่
ู
็
ี
ี
ี
ี
ุ
เตง รัง พะยอม ตะเทยนทอง ตะเทยนหิน ตะเทยนชันตาแมว ไมสกลยาง สะเดา สะเดาเทยน ตะก ยมหิน
ยมหอม นางพญาเสือโครง นนทรี สัตบรรณ ตีนเปดทะเล พฤกษ ปบ ตะแบกนา เสลา อินทนิลน้ำ
ตะแบกเลือด นากบุด ไมสกลจำป แคนา กลปพฤกษ ราชพฤกษ สุพรรณิการ เหลืองปรีดียาธร มะหาด
ุ
ั
มะขามปอม หวา จามจุรี พลับพลา กันเกรา กะทังใบใหญ หลุมพอ กฤษณา ไมหอม เทพทาโร ฝาง
ุ
ุ
ุ
ไผทกชนิด ไมสกลมะมวง ไมสกลทุเรียน และมะขาม (สำนักสงเสริมการปลูกปา, 2562)
5.2.2.2 พื้นที่เกษตรกรรม การใชและอนุรักษพื้นที่เกษตร ที่เกษตรกรใชผลิตพืชผล
และใหเกษตรกรมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เพื่อความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน และอนุรักษ
ความหลากหลายทางชีวภาพ พืชสมุนไพร ระบบนิเวศดินใหสมบูรณ ดังนี้
1) ปรับปรุงทรัพยากรดินเพื่อการเกษตร โดยการเพิ่มการใชปุยอินทรีย เชน
ปุยพืชสด ปุยหมัก ปุยคอก และน้ำหมักชีวภาพ เปนตน รวมกับการใชปุยเคมีอยางมีประสิทธิภาพ
และสงเสริมการทำปุยอินทรียและน้ำหมักชีวภาพ (กรมพฒนาทีดน, 2553ก)
ั
ิ
่
2) สงเสริมใหมีมาตรการอนุรักษดินและน้ำ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ
ของดิน เชน การไมเผาตอซัง การปลูกหญาแฝก และทำแนวคันดิน ในการชะลอเก็บกักน้ำโดยเฉพาะ
ในพื้นที่มีความลาดชันสูง (กรมพัฒนาที่ดิน)
3) สรางแหลงน้ำในไรนานอกเขตชลประทานใหมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยง
ในชวงเวลาฝนทิ้งชวงและใชชวยระบายน้ำเปนแกมลิงในชวงเวลาฝนตกหนัก รวมทั้งขุดลอกแหลงน้ำ
สาธารณะ เพื่อเตรียมเก็บกักน้ำไวใชในฤดูแลง
4) ใหความรูแกเกษตรกรในการใชน้ำเพื่อการเกษตรใหเกิดประโยชน
สูงสุดและมีการวางแผนการเพาะปลูกพืชใหสอดคลองกับน้ำตนทุน
5) เกษตรกรควรรวมกลุมกันพัฒนาสินคาเกษตรใหไดใบรับรองสิ่งบงชี้
ทางภูมิศาสตร (Geographical Indications หรือ GI) เพื่อมูลคาสินคาเกษตร สินคาที่ใชสิ่งบงชี้
ทางภูมิศาสตรมักจะเปนสินคาทมีชื่อเสียงและไดรับความนิยม เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษหรือมลักษณะ
ี่
ี
เฉพาะที่เกิดจากอิทธิพลสิ่งแวดลอมทางภูมิศาสตร เชน สภาพแวดลอม ดิน ฟา อากาศ ของแหลง
ิ
ิ
ั
ภูมิศาสตรนั้น ๆ ตลอดจนทกษะความชำนาญและภูมปญญาของกลุมชนท่อาศยอยูในแหลงภูมศาสตรนัน ๆ
้
ั
ี
ี
ประกอบดวย สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรมความแตกตางจากทรัพยสินทางปญญาประเภทอื่น กลาวคอ ผูเปน
ื
เจาของไมใชบุคคลหนึ่งบุคคลใดแตเปนกลุมชุมชนที่เปนผูผลิตหรือผูประกอบการในพื้นที่ทางภูมิศาสตรนั้น ๆ
ี
่
ี
ซึ่งจะสงผลใหผูผลิตทีอาศัยอยูในสถานท่หรือแหลงภูมิศาสตร และผูประกอบการเกี่ยวกับสินคาท่ใช
้
ิ
สิงบงชีทางภูมศาสตรนันเทานัน ทมีสิทธิผลิตสินคาดังกลาวโดยใชชือทางภูมศาสตรนั้นได ผูผลิตคนอื่น
่
ี
้
่
่
ิ
้
ที่อยูนอกแหลงภูมิศาสตรจะไมสามารถผลิต สินคาโดยใชชื่อแหลงภูมิศาสตรเดียวกันมาแขงขันได
สิทธิในลักษณะดังกลาวนี้นักวิชาการบางทานเรียกวา “สิทธิชุมชน” ซึ่งไมสามารถนำสิทธิที่ไดรับไป
อนุญาตใหบุคคลอื่นใชตอได ผูที่อยูในพื้นที่แหลงภูมิศาสตรเทานั้นที่มีสิทธิใช สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรนี ้
อาจแบงไดเปน 2 ลักษณะคือ (กรมทรัพยสินทางปญญา, 2559)
(1) สิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตรโดยตรง (Direct Geographical Indication)
กลาวคือ เปนชื่อทางภูมิศาสตรที่เกี่ยวของกับสินคานั้น ๆ โดยตรง เชน ไชยา เพชรบูรณ เปนตน