Page 192 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ์ 2566
P. 192
5-2
ี่
5.1.2 เขตการใชทดิน
ี่
การกำหนดเขตการใชที่ดินในบริเวณพื้นทจังหวัดกาฬสินธุ จากรายงานวางแผนการใช
ี่
ที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ ป 2566 มีเนื้อท 4,341,716 ไรหรือ 6,946.746 ตารางกิโลเมตร สามารถกำหนด
เขตการใชที่ดินของจังหวัดกาฬสินธุนี้ ได 8 เขต ไดแก เขตปาไม เขตการเกษตร เขตชุมชน เขต
อุตสาหกรรม เขตแหลงน้ำ เขตพื้นที่เฉพาะ และเขตพื้นที่เบ็ดเตล็ด ดังตารางที่ 5-1 และรูปที่ 5-2 โดยม ี
รายละเอียดดังนี้
้
ื
ี่
5.1.2.1 เขตปาไม มีเนื้อท 737,196 ไร หรือรอยละ 16.98 ของพนทีจังหวัดกาฬสินธุ
่
พื้นที่เขตนี้เปนบริเวณที่มีการประกาศเปนเขตปาไมตามกฎหมาย ไดแก เขตอุทยานแหงชาติ
เขตปาสงวนแหงชาติ พื้นที่เตรียมประกาศเปนเขตอุทยานแหงชาติ และบริเวณที่มีมติคณะรัฐมนตรี
เกี่ยวกับการใชทรัพยากรทดินเขตพื้นที่ปาไมนี้เมื่อพิจารณาตามวัตถุประสงคหลักของการประกาศเขต
่
ี
และมาตรการของการใชที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรีตาง ๆ ดังกลาว สามารถกำหนดเขตการใชที่ดน
ิ
ออกเปน 3 เขตยอย คือ เขตปาอนุรักษ เขตปาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีปาไมนอกเขตปาตามกฎหมายอก
ี
1 เขต คือ เขตคงสภาพปาไมนอกเขตปาตามกฎหมาย โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) เขตพื้นที่ปาอนุรักษ มีเนื้อที่ 468,631 ไร หรือรอยละ 10.79 ของเนื้อที ่
ั
จังหวัดกาฬสินธุ พื้นที่เขตนี้กำหนดไวเพอการอนุรักษ ทรัพยากรธรรมชาติ พันธุพืชและพนธุสัตวปาทหายาก
ี่
ื่
ตลอดจนการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศเพอปองกันภัยธรรมชาติ เชน อุทกภัย ดินถลม การชะลาง
ื่
พังทลายของดิน รวมถึงประโยชนดานการศึกษาวิจัยและนันทนาการของประชาชน เขตนีครอบคลุม
้
่
พื้นที่เขตอุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา เขตปาอนุรักษตามมติคณะรัฐมนตรีเรืองการจำแนก
เขตการใชทรัพยากรและที่ดินปาไมในเขตปาสงวนแหงชาติ เปนตน
(1) เขตคุมครองสภาพปา (หนวยแผนที่ 111) มีเนื้อที่ 363,856 ไร หรือ
ี
่
รอยละ 8.38 ของเนื้อทจังหวัดกาฬสินธุ พื้นที่เขตนี้อยูภายใตขอกำหนดที่ตองสงวนไวเพื่อการอนุรักษ
ประกอบกับสภาพปจจุบันยังคงเปนปาไมที่สมบูรณ หรือปาละเมาะบางสวน นอกจากนี้ยังรวมถง
ึ
พื้นที่สวนปาตาง ๆ ซึ่งสวนใหญพบในบริเวณที่มีความลาดชันสูง
ขอเสนอแนะในการใชพื้นท ี่
จากการที่รัฐบาลมีนโยบายที่เดนชัดในการรักษาพื้นที่ปาไม
โดยเฉพาะบริเวณที่เปนปาสมบูรณใหคงสภาพอยูเพื่อรักษาความสมดุลในระบบนิเวศวิทยาภายในพ้นท ่ ี
ื
ดังนั้นขอเสนอแนะในการใชพื้นที่ในพื้นที่ดังกลาวจึงควรดำเนินการดังนี้
- ควบคุมมิใหมีการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติไปใชประโยชนใน
รูปแบบอน ๆ
ื
่
- ควรมีการบำรุงรักษาสภาพปาธรรมชาติตามหลักวิชาการ
- ดำเนินการปองกันและปราบปรามการลักลอบตัดไมทำลายปา
ใหมีประสิทธิภาพและมีผลการปฏิบัติอยางตอเนื่อง โดยดำเนินการกับผูกระทำผิดอยางเด็ดขาด
- ถาบริเวณนี้มีการบุกรุกพื้นที่ในภายหลัง เจาหนาที่ผูรับผิดชอบ
ในพนทควรรีบดำเนินการปลูกปาทดแทนโดยเร็ว เพื่อปองกันการขยายพื้นที่ของการบุกรุกตอไป
ื้
ี่
- ควรสงเสริมใหราษฎรในพื้นที่และพื้นที่ขางเคียงเห็นคุณคาของ
ทรัพยากรปาไมและมีสวนรวมในการดูแลรักษาปาไมในพื้นท ี่