Page 204 - rubber
P. 204
ผก-16
6.1.8 ไม่เก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนสารป้องกันก าจัดศัตรูพืชที่ใช้จะสลายตัวถึงระดับปลอดภัย
โดยดูจากตารางค าแนะน าการใช้สารป้องกันก าจัดศัตรูพืช
6.1.9 ท าลายภาชนะบรรจุสารเคมีที่ใช้หมดแล้วอย่าทิ้งตามร่องสวนแม่น้ า ล าคลอง
6.2 การใช้เครื่องพ่นสารป้องกันก าจัดศัตรูพืช
6.2.1 เครื่องพ่น : นิยมใช้มี 2 ชนิด ได้แก่
1) เครื่องพ่นแบบสูบโยกสะพายหลัง
2) เครื่องยนต์พ่นสารชนิดใช้แรงดันน้ า
6.2.2 วิธีการใช้
1) เครื่องพ่นแบบสูบโยกสะพายหลัง ใช้อัตราการพ่น 6 0 -80 ลิตรต่อไร่
เลือกใช้หัวพ่นแบบกรวยขนาด (เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.6 มิลลิเมตร) ส าหรับการพ่นสารป้องกันก าจัดสารฆ่าแมลง
และโรคพืช
2) เครื่องยนต์พ่นแบบกรวยขนาดกลาง (เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.0-1.2 มิลลิเมตร)
ปรับความดันในระบบพ่นไว้ที่ 10 บาร์ หรือ 150 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ถ้าเป็นหัวพ่นแบบกรวยชนิดปรับ
ให้ได้ละอองกระจายกว้างที่สุด ซึ่งจะได้ละอองขนาดเล็กสม่ าเสมอ เหมาะส าหรับการพ่นสารป้องกัน
ก าจัดแมลง และโรคพืช
3) การพ่นสารก าจัดวัชพืชต้องแยกใช้เครื่องพ่นเฉพาะ ควรเลือกใช้หัวพ่นแบบพัด
หรือแบบปะทะ ใช้อัตราการพ่น 60-80 ลิตรต่อไร่ หลังพ่นไม่ควรรบกวนผิวหน้าดิน ขณะพ่นกดหัวพ่นต่ า
เพื่อให้ละอองสารเคมีตกลงบนพื้นที่ต้องการควบคุมวัชพืชเท่านั้น ระวังการพ่นซ้ าแนวเดิมเพราะจะท าให้
ปริมาณสารเพิ่มเป็นสองเท่า
4) ใช้ความเร็วในการเดินพ่นประมาณ 1 ก้าวต่อวินาที พ่นให้คลุมทั้งต้น
ไม่ควรพ่นจี้นานเกิน เพราะจะท าให้น้ ายาโชกและไหลลงดิน และควรพลิก หงายหัวพ่นขึ้นลงเพื่อให้
ละอองแทรกเข้าทรงพุ่มได้ดีขึ้น โดยเฉพาะด้านใต้ใบ
5) การพ่นสารก าจัดวัชพืช ควรถือหัวพ่นที่ความสูงเดียวกันตลอดการปฏิบัติงาน
6) การพ่นสารทุกครั้งให้เริ่มพ่นจากด้านใต้ลมก่อนจากนั้นขยายแนวการพ่นขึ้นเหนือลม
ขณะเดียวกันให้หันหัวพ่นไปทางใต้ลมตลอดเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารป้องกันก าจัดศัตรูพืช
7. การเสริมรายได้ในสวนยาง
การเสริมรายได้สามารถด าเนินการได้โดยปลูกพืช หรือเลี้ยงสัตว์ระหว่างแถวยางตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึง
โค่นยาง โดยพิจารณาตลาด แรงงาน เงินทุน ขนาดพื้นที่สวนยาง สภาพแวดล้อม และลักษณะนิสัยของ
เกษตรกร การเสริมรายได้ในสวนยางมีหลายประเภท
เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจยางพารา กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน