Page 273 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจส้มโอ
P. 273
3-179
- หากท าการส่งออกส้มโอ สีผิวและการสุกแก่ของส้มโอก็มีผลต่อราคาผลผลิต ควรดูแลและ
ป้องกันเรื่องของโรคและแมลง ให้ดีอยู่เสมอ
- ส้มโอบางสายพันธุ์มีความจ าเพาะต่อสภาพภูมิประเทศ หากน ากิ่งพันธุ์ไปปลูกที่อื่นก็จะมี
ผลต่อการเจริญเติบโตท าให้ต้นทุนการปลูกและดูแลรักษาสูง
ข้อเสนอแนะ
- ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องควรให้ความส าคัญโดยการส่งเสริมการผลิตเพื่อการส่งออกให้มากขึ้น
เป็นการผลิตส้มโอให้ปลอดภัยและมีคุณภาพตามระบบ GAP
- ส่งเสริมหาแนวทางยกระดับตลาดให้เป็นสินค้าคุณภาพระดับพรีเมี่ยม (Premium) มากขึ้น
เช่น การขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ การเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการอาหารปลอดภัยที่ผ่าน
การรับรองมาตรฐาน GAP
- เนื่องจากส้มโอจะเริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 4 ดังนั้นในช่วง 3 ปีแรกเกษตกรยังไม่มีรายได้
ดังนั้น เกษตรกรควรปลูกพืชที่เหมาะสมในสวนส้มโอซึ่งจะช่วยให้มีรายได้ในช่วงที่ไม่สามารถ
เก็บเกี่ยวผลผลิตได้
- จากการวิเคราะห์ความอ่อนไหว พบว่า การลงทุนท าสวนส้มโอเป็นการลงทุนที่มีความ
เสี่ยงอยู่ในระดับต ่า เนื่องจากค่าใช้จ่ายสามารถเพิ่มได้ถึง 4 เท่า รายได้สามารถลดลงได้ถึงร้อยละ 80
และสามารถคืนทุนไม่เกินปีที่ 4 ดังนั้น การลงทุนท าสวนส้มโอจึงน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควร
ได้รับการสนับสนุนให้กับเกษตรกร หรือผู้ที่สนใจเพื่อส่งเสริมให้มีการปลูก ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้
เกษตรกรและสามารถน ารายได้เข้าประเทศได้มากขึ้น
- วิจัยและพัฒนาหาพันธุ์ที่มีความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช
- การผลักดันการสร้างความร่วมมือกันทางการตลาดระหว่างผู้ผลิต ผู้ค้าและผู้ส่งออก
ตลอดจนการใช้ความร่วมมือกันสร้างความสามารถในการต่อรองราคาเพื่อให้เกิดการส่งผ่านราคา
ที่เหมาะสมจากผู้ปลูกไปจนถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์
ด้านการตลาดทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศให้เกิดความชื่นชอบในความหลากหลายของสายพันธุ์
ที่มีความอร่อยแตกต่างกันในแต่ละพันธุ์
- ควรสนับสนุนปัจจัยการผลิต แหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต ่า และส้มโอพันธุ์ดีและแหล่งรับซื้อ
ผลผลิต
- การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตและบริหารจัดการซึ่งจะท าให้ผลผลิตมีคุณภาพ
มากขึ้นและมีปริมาณผลผลิตมากขึ้น ท าให้สามารถส่งออกขายต่างประเทศได้มากขึ้น
เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจส้มโอ กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน