Page 55 - land use change
P. 55
45
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินสามารถใช้สมการทางสถิติ logistic regression
ซึ่งเป็นสมการที่ใช้ในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ณ บนต าแหน่งของพื้นที่ใด มีความ
เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมกับการเปลี่ยนเป็นการใช้ที่ดิน (Adhikari et al., 2017) โดยพิจารณาจากค่า
ความต้องการการใช้ที่ดินและสิ่งปกคลุมดิน (Rki) และในการค านวณหาค่า Rki นั้นไม่สามารถส ารวจ
หรือวัดได้โดยตรง แต่เป็นค่าความน่าจะเป็นที่ได้จากการค านวณ ซึ่งสามารถค านวณได้จาก
ความสัมพันธ์ระหว่างความต้องการใช้ที่ดินกับปัจจัยด้านกายภาพ ชีวภาพ เศรฐกิจ และสังคม
ซึ่งสามารถเขียนสมการ (2) ได้ดังนี้
(2)
โดยที่ Pi คือ ค่าความน่าจะเป็นของกริดที่พิจารณา
i คือ พื้นที่ที่ท าการศึกษา
X คือ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน
คือ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของสมการ logistic regression
(2) กฏการปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและสิ่งปกคลุมดิน เป็นการก าหนดนโยบายหรือ
ข้อจ ากัดของการใช้ที่ดินหรือสิ่งปกคลุมดิน โดยมีข้อจ ากัดและล าดับความยากง่ายในการเปลี่ยนแปลง
การใช้ที่ดินขึ้นอยู่กับกฎการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด 4 ข้อ ตาม Verburg et al. (2006) ดังนี้
(2.1) กฎของพื้นที่ป่าคุ้มครอง ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคุ้มครองหรือพื้นที่
อนุรักษ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ยากต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเมื่อมีการจ าลองตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง
การใช้ที่ดินในอนาคต ในพื้นที่นี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินเป็นรูปแบบอื่นได้
(2.2) ล าดับการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและสิ่งปกคลุมดิน ควรสอดคล้องกับ
พฤติกรรมการใช้ที่ดินที่เกิดขึ้นจริงของมนุษย์ เช่น การเปลี่ยนแปลงจากพื้นที่ป่าไม้เป็นพื้นที่
เกษตรกรรม หรือจากพื้นที่เกษตรกรรมไปเป็นพื้นที่ชุมชน
(2.3) ความเสถียรภาพของพื้นที่โดยเป็นพื้นที่ที่เป็นการใช้ที่ดินประเภท
รูปแบบคงทนถาวร เช่น พื้นที่ชุมชนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นการใช้ที่ดินในรูปแบบอื่นได้
(2.4) การก าหนดต าแหน่งตามความต้องการ การใช้ที่ดินตามแนวโน้ม
การเปลี่ยนแปลง สถิติ หรือตามสถานการณ์การจ าลองที่สร้างขึ้นหรือต้องการที่จะท าการศึกษา
(3) การก าหนดต าแหน่งการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและสิ่งปกคลุมดิน
โดยสมการ logistic regression จะตั้งค่าเฉพาะเจาะจงส าหรับประเภทการใช้ที่ดินตามความสัมพันธ์
ที่เกิดขึ้นระหว่างประเภทการใช้ที่ดินกับสภาพทางกายภาพกับทางเศรษฐกิจและสังคม หลังจากนั้น
module ท าการจัดสรรพื้นที่ตามระดับความต้องการให้กับแต่ละกริดเซลล์ จนกว่าความต้องการนั้น
ครบตามที่ก าหนดไว้ (Verburg and Overmar, 2009) โดยเปรียบเทียบพื้นที่การจัดสรรของแต่ละ
ประเภทการใช้ที่ดินกับในแต่ละประเภทของพื้นที่ที่ต้องการ ดังภาพที่ 11

