Page 57 - land use change
P. 57

47




                              3.3.3 งานวิจัยการใช้แบบจ าลอง Dyna-CLUE ในการคาดการณ์การใช้ที่ดินในอนาคต
                                           Lourdesa et al. (2011) ศึกษาการเปลี่ยนการใช้ที่ดินและสิ่งปกคลุมดินบริเวณ
                       ลุ่มน้ า Dulce Creek ประเทศอาร์เจนติน่า โดยใช้แบบจ าลอง Dyna-CLUE ร่วมกับปัจจัยด้านธรณี
                       สัณฐานปัจจัยด้านความสามารถของดินในการให้ผลผลิตพืชและ ปัจจัยด้านน้ าท่วมที่มีผลต่อพื้นที่

                       ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ และทดสอบความถูกต้องของแบบจ าลองโดยใช้ ROC curves โดยมีค่าเท่ากับ 0.88 - 0.93
                                           Price et al. (2015) ท าการศึกษาพื้นที่เสี่ยงต่อการขยายเป็นเมืองและการทิ้งร้าง
                       พื้นที่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยใช้แบบจ าลอง Dyna-CLUE พบว่า ปัจจัย
                       ด้านนโยบายของรัฐภายใต้การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมในอีก 20 ปีข้างหน้า ส่งผลให้มีการ

                       ขยายตัวของเมืองบนพื้นที่ราบสูงเพิ่มขึ้น และพื้นที่เกษตรกรรมส่วนใหญ่มีความเสี่ยงในการถูกปล่อย
                       ให้เป็นพื้นที่ทิ้งร้าง และทดสอบความถูกต้องของแบบจ าลองโดยใช้ข้อมูลการใช้ที่ดินจริงกับข้อมูล
                       ที่ได้จากแบบจ าลองมีค่าเท่ากับ 0.895 และ 0.902 ตามล าดับ
                                          Behera et al. (2018) พบว่า ปัจจัยทางเศรษฐกิจสังคมและปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม

                       บริเวณลุ่มน้ า Mahanadi และ Brahmaputra ประเทศอินเดียตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 มีผลท าให้พื้นที่
                       เกษตรกรรมเพิ่มขึ้นและพื้นที่ป่าไม้ลดลง และทดสอบความแม่นย าเชิงพื้นที่ของต าแหน่งระหว่าง
                       ค.ศ. 1985-1995 นั้น มีค่าความถูกต้องมากกว่าร้อยละ 90 โดยใช้สัมประสิทธิ์ Kappa ทดสอบ

                       ระหว่างแบบจ าลอง Dyna-CLUE และภาพถ่ายดาวเทียม
                       3.4 กำรตรวจสอบควำมถูกต้องของแบบจ ำลอง


                                การตรวจสอบความถูกต้องของแบบจ าลอง เป็นการยืนยันว่าผลลัพธ์ที่ได้จากแบบจ าลอง
                       มีประสิทธิภาพ ความเที่ยงตรง น่าเชื่อถือมากพอกับการน าไปใช้ในกระบวนการสร้างข้อมูลที่จ าลอง
                       สถานการณ์ขึ้นและสามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งยังเป็นการลดความผิดพลาดของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น
                       โดยการตรวจสอบแบบจ าลองขึ้นอยู่กับข้อมูล 2 ประเภท คือ 1. ข้อมูลที่ใช้ในการสร้างแบบจ าลอง
                       และ 2. ข้อมูลที่ไม่ได้ใช้ในการสร้างแบบจ าลอง โดยการตรวจสอบความถูกต้องประเภทแรก น าไปใช้

                       เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ความเหมาะสมของแบบจ าลอง หรือเป็นการวิเคราะห์แบบสุ่มตัวอย่าง และ
                       การตรวจสอบความถูกต้องตามประเภทที่สองเป็นการวิเคราะห์ว่าประสิทธิภาพในการท านายของ
                       แบบจ าลองลดลงโดยไม่มีความผิดพลาดเมื่อน าไปใช้กับข้อมูลใหม่

                                การตรวจสอบความถูกต้องของแบบจ าลอง โดยการก าหนดจุดตรวจสอบข้อมูลเพื่อ
                       ตรวจสอบความถูกต้องของผลการจ าแนกการใช้ที่ดิน โดยการสุ่มตัวอย่างตามสัดส่วนของขนาดพื้นที่
                       ในแต่ละประเภทการใช้ที่ดิน ซึ่งใช้การสุ่มแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) นั้นเป็น
                       สุ่มจุดตัวอย่างเพื่อตรวจสอบกระจายในทุกประเภทการใช้ที่ดินทั้งพื้นที่ (วิภพ, 2561) และค านวณ

                       ความถูกต้องโดยรวมของการจ าแนกการใช้ที่ดิน ซึ่งเป็นการแสดงความถูกต้องของการจ าแนกข้อมูล
                       โดยพิจารณาผลการการจ าแนกของจุดอ้างอิงกับจุดข้อมูลจากแบบจ าลองในรูปของตารางเมตริกซ์
                       ความคลาดเคลื่อนโดยเป็นอัตราส่วนจ านวนจุดภาพที่จ าแนกได้ถูกต้องตรงกันตามแนวทแยง
                       ของตาราง (ภาพที่ 12) ต่อผลรวมของจ านวนจุดภาพที่น ามาจ าแนกประเภทและค านวณพื้นที่ที่ตรงกัน

                       ออกมาเป็นร้อยละ (Congalton and Green, 1999) ตามสมการที่ (4) ท าการตรวจสอบความถูกต้อง
                       ของผู้ผลิตซึ่งเป็นค่าความน่าจะเป็นของจุดภาพอ้างอิงถูกจ าแนกได้อย่างถูกต้อง และความ
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62