Page 35 - รายงานสำรวจทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับท้องถิ่น จังหวัดนนทบุรี
P. 35

3-13





                              (15)  พื้นที่ชุมน้ำแมน้ำสงครามตอนลาง

                                  มีขอบเขตเริ่มตั้งแตปากน้ำบานไชยบุรี ตำบลไชยบุรี อำเภอทาอุเทน จังหวัด
                                                                                                      ้
                  นครพนม ไปจนถึงบานปากยาม ตำบลสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ความยาวทั้งสิน
                  92 กิโลเมตร นับเปนแรมซารไซต ลำดับที่ 15 ของประเทศไทย และเปนแรมซารไซต ลำดับที่ 2,420
                  ของโลก มีผลอยางเปนทางการเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ครอบคลุมเฉพาะสวนที่เปนตัวแมน้ำ

                  สงครามตอนลาง และพื้นที่ปาบุงปาทามที่ติดกับสองฝงแมน้ำ และพื้นที่ปาสาธารณะ หรือปาบุงปาทามที ่
                  ผูนำชุมชนและคณะกรรมการหมูบานเห็นชอบ และไมมีพื้นที่ทับซอนกับพื้นที่เอกสารสิทธิ์ของราษฎร

                                                                       ่
                                                                       ี
                  รวมทั้งพื้นที่การปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พื้นทสาธารณะตามหนังสือสำคัญสำหรับท ่ ี
                  หลวง (นสล.) รวมพื้นที่ที่เสนอเปนแรมซารไซตทั้งหมด 34,381 ไร มีความหลากหลายของระบบนิเวศ
                  ปาที่พบในบริเวณลุมน้ำนี้ประกอบดวย ปาบึงน้ำจืดหรือปาบุง-ทาม (freshwater swamp forest)

                  ปาเต็งรัง (dry dipterocarp forest) และปาดิบแลง (dry dipterocarp forest) บนเขาหินทรายและท ่ ี
                  ราบลุม พบพืชหายาก รวม 7 ชนิด เชน กระโดนเบี้ย (Careya herbacea Roxb.) ตะแบกทามหรือ

                  เปอยน้ำ (Lagerstroemia spireana Gagnep.) และไชยวาน (Cephalanthus tetrandra (Roxb.)
                                                                   ี
                  Ridsdale & Bakh.f.) เปนตน พบวา มีสัตวปาที่มีสถานภาพมแนวโนมใกลสูญพันธุ (VU) 3 ชนิด คือ เตานา
                  (Malayemys subtrijuga) เตาดำ (Siebenrockiella crassicollis) และตะพาบน้ำ  (Amyda
                  cartilaginea) และพบปลาจำนวน 183 ชนิด ชนิดที่เปนพันธุเฉพาะถิ่น (Endemic) เชน ปลากระเบน

                  แมน้ำโขง (Dasyatis laosensis) ปลาตองลาย (Chitala blanci) และปลาหมากผาง (Tenualosa
                  thibaudeaui) เปนตน ชนิดพันธุที่อยูในสถานภาพใกลสูญพันธุ (Endangered) เชน ปลากระเบนแมน้ำโขง
                  (Dasyatis laosensis) ปลาตองลาย (Chitala blanci) และปลากระโห (Catlocarpio siamensis)

                      3.2.2 ขอดีในการเขารวมอนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ำของประเทศไทย
                          1) อนุสัญญาวาดวยพื้นที่ชุมน้ำ เปนขอตกลงระหวางประเทศที่มีความสำคัญเกี่ยวกบ
                                                                                                      ั
                  การอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในบริเวณพื้นที่ชุมน้ำเปนสำคัญ ขณะเดียวกันอนุสัญญาฯ
                  ยังสามารถเชื่อมโยงกับอนุสัญญาดานการอนุรักษและการใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติอยางยั่งยืน

                  เชน อนุสัญญาวาดวยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biological Diversity : CBD)
                  อนุสัญญาสหประชาชาติวาดวยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework

                  Convention on Climate Change : UNFCCC) และอนุสัญญาวาดวยการคาระหวางประเทศซึ่งชนิด
                  สัตวปาและพืชปาที่ใกลสูญพันธุ (Convention on International Trade in Endangered Species
                  of Wild Fauna and Flora : CITES)

                          2) การเปนภาคีทำใหมีโอกาสเขารวมแสดงความคิดเห็นกับนานาประเทศในการประชุม
                  เพื่อพิจารณาหลักเกณฑการอนุรักษและใชประโยชนพื้นที่ชุมน้ำอยางชาญฉลาด

                          3) เปนการนำพื้นที่ชุมน้ำสำคัญของประเทศ เขาไปในทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุมน้ำที่ม ี
                  ความสำคัญระดับประเทศ (Ramsar Site)
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40