Page 40 - Phetchaburi-Prachuap Khirikhan Basin
P. 40
3-6
3.3 ระบบกายภาพลุมน้ำ
ลักษณะทางกายภาพของลุมน้ำหลักแมน้ำเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ มีรูปรางเปนสี่เหลี่ยมมีคา
สัมประสิทธิ์ความหนาแนน Compactness coefficient (Kc) เทากับ 2.5 และมีคา Form Factor (FF)
เทากับ 0.15 ดังแสดงในตารางที่ 3 - 2 โดยมีจุดสูงสุดของพื้นที่อยูบริเวณชายแดนไทย-พมา เขางะยัน
นิกยวกตอง ตำบลหวยแมเพรียง อำเภอแกงกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีความสูง 1,518 เมตร
จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดต่ำสุดของพื้นที่ลุมน้ำบริเวณ อาวบางตะบูน บานปากอาว ตำบลบางตะบูนออก
อำเภอบานแหลม จังหวัดเพชรบุรี มีความสูง 0.43 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยทั่วไปของลุมน้ำ
เปนพื้นที่ดอนรูปแบบของลำน้ำเปนแบบ Dendritic pattern มีลักษณะเปนลำธารแตกกิ่งกานสาขา
คลายเสนใบของใบไมมีทิศทางไมแนนอน
ตารางที่ 3-2 ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ลุมน้ำหลักแมน้ำเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ
ความ ความ Drainage ความ
ความยาวเสน Form Compact
ยาว
ลอมรอบลุมน้ำ พื้นที่ลุมน้ำ เฉลี่ย กวาง Factor nesscoefficient density ลาดชัน
2
กม./ตร.
ของ
(km )
เฉลี่ย
(km) (FF) (Kc)
(km) (km) กม. พื้นที่
1,038 13,370.96 300 109.91 14.81 0.3 0.259 0.43
การแบงลุมน้ำสาขาในลุมน้ำหลักแมน้ำเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ ไดกำหนดตามประกาศเมื่อวันที่
11 กุมภาพันธ 2564 พระราชกฤษฎีกากำหนดลุมน้ำ พ.ศ. 2564 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา
แบงพื้นที่ลุมน้ำของประเทศไทยใหม ใหมีความเหมาะสมกับการบริการจัดการน้ำและวิถีชีวิตของประชาชน
กำหนดใหประเทศไทยมี 22 ลุมน้ำหลัก 353 ลุมน้ำสาขา และมีหมูเกาะตาง ๆ ของแตละลุมน้ำหลักอีก
จำนวน 6 หมูเกาะ การแบงกลุมพื้นที่ “ลุมน้ำ” (river basins) ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561
บัญญัติใหกำหนดลุมน้ำเพื่อประโยชนในการบริหารจัดการน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแหงชาติ (สทนช.)
จึงรวมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรศึกษาทบทวนการแบงพื้นที่ลุมน้ำใหม ผลการศึกษาสรุปใหปรับปรุง
25 ลุมน้ำเดิมเหลือ 22 ลุมน้ำ ประกอบดวย ลุมน้ำสาละวิน ลุมน้ำโขงเหนือ ลุมน้ำโขง
ตะวันออกเฉียงเหนือ ลุมน้ำชี ลุมน้ำมูล ลุมน้ำปง ลุมน้ำวัง ลุมน้ำยม ลุมน้ำนาน ลุมน้ำเจาพระยา
ลุมน้ำสะแกกรัง ลุมน้ำปาสัก ลุมน้ำทาจีน ลุมน้ำแมกลอง ลุมน้ำบางปะกง ลุมน้ำโตนเลสาบ
ลุมน้ำชายฝงทะเลตะวันออก ลุมน้ำชายฝงอาวไทยตะวันตก ลุมน้ำภาคใตฝงตะวันออกตอนบน
ลุมน้ำทะเลสาบสงขลา ลุมน้ำภาคใตตะวันออกตอนลาง และลุมน้ำภาคใตฝงตะวันตก จาก 25
ลุมน้ำหลักเดิม เหลือ 22 ลุมน้ำหลักใหม ซึ่งหายไปไหน 3 ลุมน้ำ (สำนักงานทรัพยากรน้ำแหงชาติ,
2564) ปรับปรุงขอบเขตการปกครองตามกรมสงเสริมการปกครอง (2564) ประกอบกับผลการศึกษา
ของโครงการศึกษาสำรวจออกแบบสถานีอุทกวิทยา 25 ลุมน้ำหลักของประเทศไทย ของกรมทรัพยากรน้ำ
(2550) โดยพิจารณาหลักเกณฑการแบงขอบเขตลุมน้ำสาขา การเรียกชื่อลุมน้ำ ลำน้ำ และการกำหนด
รหัสลุมน้ำ โดยยึดถือ “มาตรฐานลุมน้ำและลุมน้ำสาขา” ของคณะอนุกรรมการศูนยขอมูลสารสนเทศ
อุทกวิทยา (น้ำผิวดิน) ภายใตคณะกรรมการอุทกวิทยาแหงชาติ (ปจจุบันไดรวมอยูในกรมทรัพยากรน้ำ)
กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน