Page 35 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี
P. 35
3-7
(1.2) ชนิดของปาไม
(1.2.1) ปาดิบชื้น พบในบริเวณแนวเทือกเขา ทางทิศตะวันตกของจังหวัด
ครอบคลุมเขตปาอนุรักษ เชน อุทยานแหงชาติแกงกรุง อุทยานแหงชาติเขาสก อุทยานแหงชาติคลองพนม
เขตรักษาพันธุสัตวปา ทั้ง 4 แหง นอกจากนี้ ยังพบปาดิบชื้นบริเวณแนวเทือกเขาทางทิศตะวันออกเฉียงใตของ
จังหวัด ในเขตปาอนุรักษ ครอบคลุมอุทยานแหงชาติใตรมเย็น และอุทยานแหงชาติน้ําตกสี่ขีด (บางสวน)
สภาพปามีความอุดมสมบูรณ มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง พืชที่พบ ไดแก ไผ เถาวัลย ยาง ตะเคียนทอง
ไขเขียว ตะเคียนทราย พะยอมทราย และหลุมพอ เปนตน
(1.2.2) ปาดิบแลง สวนมากพบตามหมูเกาะทางทิศตะวันออกของจังหวัด และพื้นที่
สวนใหญอยูในเขตปาอนุรักษ ไดแก อุทยานแหงชาติหมูเกาะอางทอง อุทยานแหงชาติธารเสด็จ - เกาะพะงัน
รวมทั้งบางสวนของอุทยานแหงชาติเขาสก พบในพื้นที่ที่มีการผุสลายของหินปูนกลายเปนดินที่มีอินทรียวัตถุสูง
แตชั้นดินตื้น ทําใหกักเก็บน้ําไดไมมากนัก ตนไมมีขนาดเล็กและความสูงนอย พืชที่พบ ไดแก หวายกําพวน
หวายแดง หวายเล็ก หวายปูเจา หวายขี้ไก หวายผึ้ง หวายขี้เสี้ยน เปนตน
(1.2.3) ปาชายเลน พบมากที่สุดบริเวณอาวบานดอน ขึ้นเปนแนวแคบๆ ประมาณ
50-100 เมตรจากฝงทะเล และตามริมลําแมน้ําตาปและลําน้ําสาขา พืชที่พบ เชน โกงกางใบใหญ โกงกาง
ใบเล็ก แสม ลําพู ลําแพน ถั่วขาว เปนตน
(1.2.4) ปาชายหาด พบตามริมชายทะเลของเกาะตางๆ ทางทิศตะวันออกของ
จังหวัด เปนปาโปรงที่มีพันธุไมปลัดใบขึ้นอยูบริเวณแคบๆ ตามชายหาดที่มีดินเปนดินทราย และบริเวณเชิงเขา
ชายทะเลทั่วไป พันธุไมที่พบจัดเปนพืชทนเค็มเชน หูกวาง สนทะเล โพทะเล จิกทะเล และรักทะเล เปนตน
(1.2.5) ปาพรุ เปนพื้นที่ชุมน้ําที่สําคัญแหงหนึ่งของประเทศ ตั้งอยูที่ตําบลคันธุลี
อําเภอทาชนะ มีชื่อวา ปาพรุคันทุลี เนื้อที่ประมาณ 875 ไร การสํารวจความหลากหลายทางชีวภาพเบื้องตน
พบวามีพรรณพืชอยางนอย 36 ชนิด เปนพืชเฉพาะถิ่นที่มีลักษณะพิเศษ ทําใหสามารถดํารงชีวิตอยูในปาพรุได
เชน หลุมพอ หลาวชะโอน เถาวัลย หมากแดง กระพอ ระกํา และยานลําเภา เปนตน
(2) ทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดินจังหวัดสุราษฏรธานี มีหนวยแผนที่ดิน 249 หนวย แบงออกได 3 ประเภท
ประกอบดวย หนวยดินเดี่ยว 177 หนวย หนวยดินเชิงซอน 9 หนวย และหนวยพื้นที่เบ็ดเตล็ด 6 หนวย
(คําอธิบายหนวยแผนที่ดินและสมบัติดิน แสดงไวในภาคผนวกที่ 2) โดยสรุปเปนประเภทชุดดินและพื้นที่
เบ็ดเตล็ดของหนวยแผนที่ดินไวในตารางที่ 3 - 1 และรูปที่ 3- 1