Page 135 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดราชบุรี
P. 135
5-7
หรือเป็นเจ้าของที่ดินแทนคนต่างด้าวด้วยประการใดๆ ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของ
ประเทศและความเป็นอยู่ของเกษตรกร จึงจ าเป็นต้องรักษา ป้องกันและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม
สนับสนุนการผลิตทางการเกษตรที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ เช่นศักยภาพของที่ดิน แหล่งรองรับผลผลิต
ระบบชลประทาน ระบบโลจิสติกส์ โดยแบ่งพื้นที่เกษตรกรรมที่จ าเป็นต้องคุ้มครอง โดยยึดความ
เหมาะสมของที่ดินเป็นหลัก เพื่อให้มีผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการลงทุน เขตคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม มี
เนื้อที่รวม 1,531,941 ไร่ หรือร้อยละ 47.17 ของเนื้อที่จังหวัด โดยสามารถแบ่งออกเป็น 6 เขตย่อย คือ
(1) เขตพื้นที่เกษตรกรรมชั้นดี
เขตพื้นที่เกษตรกรรมชั้นดีมีเนื้อที่ 443,561 ไร่ หรือร้อยละ 13.66 ของเนื้อที่จังหวัด
เขตนี้เป็นพื้นที่ท าการเกษตรที่มีระบบชลประทาน ดินมีศักยภาพในการผลิตปานกลางถึงสูงแต่อาจมี
ข้อจ ากัดของการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประการที่สามารถแก้ไขได้ง่าย บางพื้นที่มีแหล่งน้ าเพียงพออาจมี
การใช้พื้นที่เพื่อการปลูกพืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ หรือพืชอายุสั้นหลังฤดูท านาได้ พื้นที่เขตนี้เป็นพื้นที่
ส าคัญในการผลิตพืชเศรษฐกิจ พื้นที่เขตนี้สามารถแบ่งเป็น4 เขตย่อย ตามศักยภาพและความเหมาะสม
ของการใช้ประโยชน์ที่ดินดังนี้
พื้นที่ที่มีศักยภาพทางการเกษตรสูงมีความเหมาะสมสูงส าหรับการท านา ปลูกพืชไร่
ไม้ผล ไม้ยืนต้น ให้ผลผลิตสูง มีระบบชลประทาน หรือเป็นเขตจัดรูปที่ดิน (เหมาะสมปานกลาง เหมาะสม
เล็กน้อยแต่อยู่ในเขตชลประทาน)ให้มีการใช้ที่ดินเฉพาะเพื่อการเกษตรอย่างเข้มงวด ไม่ให้เปลี่ยนแปลง
ไปท ากิจกรรมประเภทอื่นที่จะท าให้สภาพการเกษตรเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง เช่น หมู่บ้านจัดสรร
โรงงานอุตสาหกรรม
1.1) เขตท่านา (สัญลักษณ์แผนที่ 211) มีเนื้อที่ 252,453 ไร่ หรือร้อยละ 7.77
ของเนื้อที่จังหวัด สภาพพื้นที่ราบเรียบถึงค่อนขางราบเรียบ ที่ดินมีความเหมาะสมปานกลางถึงสูงในการ
ท านาโดยอาศัยน้ าจากระบบชลประทาน
รูปแบบการพัฒนาและแนวทางการจัดการ ในการใช้พื้นที่เพื่อการท านาควรมี
การเพิ่มศักยภาพการผลิตด้วยการพัฒนาระบบส่งน้ า และแหล่งกักเก็บน้ าขนาดเล็กในไร่นา เพื่อลด
ความเสียหายกรณีฝนทิ้งช่วง และเพิ่มศักยภาพการผลิตด้วยการใช้พันธุ์ดีจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้
ประกอบกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยชีวภาพควบคู่กับการใช้ปุ๋ยเคมีในอัตราที่เหมาะสม หรืออาจท า
เกษตรแบบเกษตรผสมผสานตามแนวทางทฤษฎีใหม่ โดยการขุดบ่อน้ าเลี้ยงปลา ยกร่องปลูกผัก ไม้ผล
ไม้ยืนต้นและนาข้าวร่วมกัน
1.2) เขตปลูกพืชไร่ (สัญลักษณ์แผนที่ 212) มีเนื้อที่ 45,701 ไร่ หรือร้อยละ
1.41 ของเนื้อที่จังหวัด สภาพพื้นที่ราบเรียบถึงค่อนข้างราบเรียบเป็นพื้นที่ดอนมีความเหมาะสมของดิน
ในการปลูกพืชได้หลายชนิด ทั้งไม้ผลและไม้ยืนต้น แต่เมื่อพิจารณาในด้านการจัดการจึงก าหนดให้
เขตนี้เป็นเขตส าหรับการปลูกพืชไร่ โดยเฉพาะสับปะรด และอ้อยโรงงานซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่
ส าคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและพลังงานแต่ส่วนมากจะประสบปัญหาเรื่องปริมาณผลผลิตที่
ไม่สัมพันธ์กับความต้องการของตลาดอันส่งผลถึงราคาของผลผลิต การตัดสินใจผลิตพืชของเกษตรกรส่วน
ใหญ่จึงขึ้นอยู่กับราคาตลาด ณ เวลาก่อนท าการผลิตดังนั้นจึงไม่สามารถระบุพื้นที่ปลูกพืชแต่ละชนิดได้
ชัดเจน และไม่สามารถควบคุมพื้นที่ปลูก เพื่อลดปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ าได้ถึงแม้รัฐบาลจะ