Page 19 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ์ 2566
P. 19
1-7
1.5.11 การชะลางพังทลายของดิน ตามพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ. 2551 การชะลาง
พังทลายของดิน หมายความวา ปรากฏการณซึ่งที่ดินถูกชะลางกัดเซาะพังทลายดวยพลังงานที่เกิดจากน้ำ
ลม หรือโดยเหตุอื่นใดใหเกิดการเสื่อมโทรม สูญเสียเนื้อดิน หรือความอุดมสมบูรณของดน
ิ
(กรมพัฒนาที่ดิน, 2552)
1.5.12 การอนุรักษดินและน้ำ (Soil and Water Conversation) หมายถึง การใชทรัพยากรดน
ิ
และน้ำอยางเหมาะสม ดวยวิธีการที่ชาญฉลาด คุมคา เกิดประโยชนสูงสุด และมีความยั่งยืนการนำ
มาตรการอนุรักษดินและน้ำมาใชก็เพื่อปองกัน และรักษาดินไมใหถูกชะลางพังทลายทั้งบนพื้นที่มี
ความลาดเทต่ำจนถึงพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ซึ่งปจจุบันมาตรการอนุรักษดินและน้ำที่ใชกันอยู
สามารถแบงออกตามลักษณะของมาตรการไดเปน 2 แบบ คือ มาตรวิธีกล (Mechanical Measures)
ิ
และมาตรการวิธีพืช (Vegetative Measures) การเลือกใชมาตรการใดควรพิจารณาลักษณะดน
ลักษณะภูมิประเทศ ปริมาณน้ำฝน ตลอดจนการใชประโยชนบนพื้นที่ดิน โดยเลือกวิธีการผสมผสาน
ื่
ิ
มาตรการใหเหมาะสมเพอใหการทำการเกษตรเกดความยั่งยืน เกื้อกูลกัน และสงผลใหมาตรการอนุรักษดิน
และน้ำมามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (กองอนุรักษดินและน้ำ, 2544) ตามพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ. 2551
การอนุรักษดินและน้ำ หมายความวา การกระทำใด ๆ ที่มุงใหเกิดการระวังปองกันรักษาดิน และที่ดิน
ไมใหเกิดความเสื่อมโทรม สูญเสีย รวมถึงการรักษา ปรับปรุง ความอุดมสมบูรณของดินและการรักษาน้ำ
ในดินหรือบนผิวดินใหคงอยูเพื่อรักษาดุลธรรมชาติใหเหมาะสมในการใชประโยชนที่ดินในทาง
เกษตรกรรม (กรมพัฒนาที่ดิน, 2552) แบงเปน 2 มาตรการ 1) มาตรการวิธีกล หมายความวา วิธีการ
อนุรักษดินและน้ำ โดยการกอสรางโครงสรางทางวิศวกรรม โดยวิธีการไถพรวนตามแนวระดับ คันดินกนน้ำ
ั้
ขั้นบันไดดิน คูรับน้ำขอบเขา บอน้ำในไรนาหรืออื่น ๆ และ 2) มาตรการวิธีพืช หมายความวา วิธีการ
อนุรักษดินและน้ำ โดยวิธีการทางพืช โดยการปลูกพืชหรือใชสวนใด ๆ ของพืชทำใหเปนแถบหรือเปนแนว
หรือปกคลุมผิวดินหรืออื่น ๆ
1.5.13 ทรัพยากรน้ำหรือน้ำ หมายถึง ของเหลวเกิดจากการรวมตัวกันของกาซไฮโดรเจนและ
กาซออกซิเจนในภาวะที่เหมาะสมหรือความหมายในลักษณะเปนทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง สิ่งท ่ ี
นำมาใชอุปโภค บริโภค ชำระลางรางกาย ใชในการเพาะปลูก การเกษตรกรรม อุตสาหกรรม
การคมนาคมทางน้ำ การผลิตพลังงาน ทรัพยากรน้ำยังเปนทรัพยากรประเภทหนึ่งที่สามารถเกิดขน
้
ึ
ทดแทนอยูตลอดเวลาเปนวัฎจักร ความสัมพันธของดิน น้ำ และปา เริ่มจากวัฏจักรของน้ำ ทระเหยจาก
ี่
ผิวทะเลและพื้นดินหมุนเวียนขึ้นไปในชั้นบรรยากาศในรูปของไอน้ำ ไอน้ำจะกลั่นตัวกลายเปนฝนและ
ื
ไหลซึมลงไปในดิน สวนที่เหลือก็จะเปนน้ำไหลบนพนผิวดินไปตามลาดเขากลายเปนธารน้ำเล็ก ๆ
้
รวมกันเปนแมน้ำ และไหลลงสูทะเล การระเหยของน้ำจากดินและการคายน้ำของตนไมก็เปนหนึ่งในวัฏ
ี่
จักรของน้ำททำใหเกดความชื้นในชั้นบรรยากาศ โดยการคายน้ำของตนไมและการระเหยของน้ำจากดิน
ิ
ี
จะมีความสัมพันธกน อีกทั้งโครงสรางของดินในปาจะมความสามารถในการดูดซมน้ำสูง โดยการทำงาน
ั
ึ
ผานระบบรากของตนไม นอกจากนี้แลวการสูญเสียน้ำจากการระเหยในพื้นที่ปาจะนอยกวาการสูญเสีย
น้ำจากการระเหยในพื้นที่แบบเดียวกนที่ไมมีตนไมปกคลุม ทำใหพื้นที่ที่ปกคลุมไปดวยตนไมอยาง
ั
หนาแนน เชน ผืนปา มีอิทธิพลตอความสมดุลของวัฏจักรน้ำเปนอยางมาก เพราะฉะนั้นการอนุรักษปาก ็
หมายถึงการอนุรักษน้ำดวย เราจึงควรหันมาใหความสนใจกับการอนุรักษตนน้ำเหลานี้ซึ่งมักจะถูกปลอย
ปละละเลย การกระทำของมนุษยที่มีตอดินและตนไมยอมสงผลถึงวัฏจักรของน้ำไมทางใดก็ทางหนึ่งอยาง