Page 80 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจยาสูบ

2-62

วิถีการตลาดยาสูบไทย ดังนี้

1. เกษตรกรจะปลูกใบยาสูบพันธุ์เวอร์ยิเนีย พันธุ์เบอร์เลย์ พันธุ์เตอร์กิช และพันธุ์พื้นเมือง
หลังจากเก็บใบยาสูบแล้วจะด าเนินการโดย
1.1 พันธ์เวอร์ยิเนีย น าใบยาสูบมาเข้าโรงบ่มที่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต

โรงบ่มอิสระและของเกษตรกร ประมาณ 7 วัน เพี่อลดความชื้นแล้วใส่กระสอบน าไปขาย
1.2 พันธ์เบอร์เลย์ น าใบยาสูบมาบ่มด้วยอากาศ ผึ่งให้แห้งประมาณ 1 เดือน
ในโรงเรือนของเกษตรกร แล้วใส่กระสอบน าไปขาย
1.3 พันธุ์เตอร์กิช น าใบยาตากแดดให้แห้งประมาณ 15 วัน แล้วน ามาอัดเป็นแท่ง
แล้วใส่กระสอบน าไปขาย อัตราส่วนการตากใบยาสดให้แห้ง ประมาณ 10:1

2. สถานีใบยาสูบ มีทั้งของโรงงานยาสูบและบริษัทเอกชน ซึ่งจะตั้งอยู่ในจังหวัดที่
เป็นแหล่งปลูกยาสูบ ท าหน้าที่แจกเมล็ดพันธุ์ดี รวบรวมรายชื่อเกษตรกรเพี่อขออนุญาตปลูกยาสูบจาก
กรมสรรพสามิตและท าหน้าที่รับซื้อใบยาแห้งก าหนดราคาตามเกรดที่ตกลงไว้กับเกษตรกร

3. โรงอบใบยาสูบ ท าหน้าที่อบใบยาสูบเวอร์ยิเนีย เบอร์เลย์และเตอร์กิช เพื่อลด
ความชื้น จาก 16-18 % ให้เหลือ 11-13 % และคัดสิ่งเจือปนออกไป
4. บริษัทรับซื้อใบยา ประกอบด้วย
4.1 บริษัทรับซื้อใบยาที่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต จะซื้อใบยาสูบเวอร์ยิเนีย

ใบยาเบอร์เลย์และเตอร์กิช จากเกษตรกรเพื่อน าใบยามาอบส่งโรงงานยาสูบและส่งออกไปขาย
ต่างประเทศ บริษัทเหล่านี้บางส่วนจะซื้อจากเกษตรกร ในการท าสัญญาข้อตกลงและมีตัวแทนเป็นพ่อค้า
เร่ไปรับซื้อ บางครั้งขาดแคลนใบยาแห้งก็จะรับซื้อจากสถานียาสูบบ้างเล็กน้อย
4.2 บริษัทที่รับซื้อยาเส้นพันธุ์พื้นเมืองจากเกษตรกร ไม่ต้องขออนุญาตจากกรม

สรรพสามิต เนื่องจากได้รับข้อยกเว้นตามกฎหมาย ไปรับซื้อจากเกษตรกรเพื่อน าไปขายให้ผู้บริโภค
ทั่วไปในจังหวัดต่างๆ และส่งออกบ้าง
4.3 พ่อค้ารับซื้อยาเส้นจากเกษตรกรขายให้กับผู้บริโภคทั่วไป
5. โรงงานยาสูบ จะมีสถานียาสูบรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรกรเพี่อน ามาอบ โดยมี

ส านักงานยาสูบประจ าแต่ละจังหวัดในแหล่งผลิต และมีการรับซื้อใบยาแห้งจากบริษัทบ้างเล็กน้อย เพื่อ
น ามาอบแล้วส่งเข้าโรงงานยาสูบผลิตบุหรี่ หรือส่งให้กับบริษัทเพื่อขายให้กับผู้บริโภคทั่วไปและส่งออก

เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจยาสูบ กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน