Page 85 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจกล้วยไข่
P. 85
2-70
จากการศึกษาสภาพการผลิตและการตลาดกล้วยไข่ จะเห็นว่า พื้นที่ให้ผล ผลผลิตรวม และ
ผลผลิตต่อไร่มีแนวโน้มลดลง จากการที่พื้นที่ให้ผลและผลผลิตรวม ปี 2554 ลดลงจากปี 2553
เป็นปริมาณมาก เนื่องจากพื้นที่ปลูกในเขตภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางเกิดพายุและน ้าท่วมในปี 2554
การตลาดกล้วยไข่มีทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศตามคุณภาพและมาตรฐานซึ่งส่งออก
โดยบริษัทและมีนักธุรกิจชาวต่างชาติเข้ามาสั่งซื้อแล้วรวบรวมผลผลิตส่งออกไปต่างประเทศ (จีน)
นอกจากบริโภคผลสดและส่งออกในลักษณะกล้วยสดแช่เย็นแล้ว ด้านตลาดแปรรูปกล้วยก็ยังมีความต้องการ
กล้วยไข่เป็นวัตถุดิบและพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีผลงานการศึกษาการชะลอ
การตกกระของกล้วยไข่ จึงเห็นว่า ตลาดกล้วยไข่ของประเทศไทยยังเป็นโอกาสส าหรับชาวสวน
เนื่องจากสามารถปลูกกล้วยไข่ได้ตลอดปี เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิตให้ผลผลิตออกตามเวลา
ที่ต้องการได้ เช่น ช่วงเทศกาลส าคัญที่มีความต้องการสูงก็จะขายได้ราคาดีและสามารถขายผลผลิต
เพื่อส่งออกได้อย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาดที่มีความต้องการสูง กล้วยไข่ของไทยเป็นที่ต้องการ
ของตลาดมาก เนื่องจากรสชาติหวานกลมกล่อม เนื้อในนุ่มละเอียดตลอดทั้งผล กลิ่นหอม ขนาดผล
พอเหมาะ และผิวเปลือกบางสีเหลืองสวยงาม โดยเฉพาะชาวจีนนิยมบริโภคมาก เพราะชื่นชอบสินค้า
ที่มีสีเหลืองมีความเชื่อว่า สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองและเป็นเครื่องหมายของจักรพรรดิ
กล้วยไข่สุกเรียกเป็นภาษาจีนที่มีความหมายว่า “กล้วยจักรพรรดิ” จากภาพลักษณ์ที่ดีท าให้กล้วยไข่
ของไทยที่ส่งออกไปประเทศจีนขายดีและขายได้ราคาดีในประเทศจีน นับว่าความต้องการกล้วยไข่
ของตลาดจีนยังมีอีกมาก การส่งกล้วยไข่เป็นสินค้าออกไปประเทศจีนจึงมีโอกาสเติบโตได้เป็นอย่างมาก
จากบทความ นักธุรกิจจีนร่วมสหกรณ์แปรรูปส่งออกตราดส่งเสริมปลูกกล้วยไข่ รายงานไว้ว่า “ความต้องการ
กล้วยไข่ของประเทศจีนมีจ านวนไม่จ ากัด แต่การผลิตไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันชาวจีนนิยมบริโภคกล้วยไข่
จากประเทศไทย” (ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 2555) นอกจากตลาดจีนแล้วยังมีตลาดฮ่องกงที่นิยม
ผลไม้เขตร้อน (tropical fruit) จากประเทศไทยเป็นอันดับแรก เนื่องจากเชื่อมั่นในคุณภาพและรสชาติ
โดยเฉพาะกล้วยไข่ที่ชาวฮ่องกงนิยมบริโภคตลอดปี (กรมส่งเสริมการส่งออก, 2555) นอกจากนี้ได้มี
การขยายตลาดไปยังประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และยุโรป อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าความต้องการ
ของตลาดกล้วยไข่มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากและสามารถผลิตได้ตลอดทั้งปี แต่ปริมาณการส่งออกกล้วยไข่
ในแต่ละปียังเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก โดยในช่วงปี 2550-2554 ปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยร้อยละ
1.70 ต่อปี เท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณการผลิตกล้วยไข่ที่มีคุณภาพและมาตรฐานส าหรับส่งออก
ยังไม่เพิ่มขึ้นมากตามความต้องการของตลาด เนื่องจากผลผลิตส่วนใหญ่ปนเปื้อนสารป้ องกันก าจัด
ศัตรูพืชที่อาจจะท าให้เกิดปัญหาต่อสุขอนามัยของผู้บริโภค
ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของเกษตรกรที่จะเลือกปลูกกล้วยไข่หรือขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นหรือปลูกแทน
พืชชนิดเดิมหรือปลูกแซมกับพืชชนิดอื่น ดังเช่นเกษตรกรในจังหวัดจันทบุรี ระยอง ตราด ตาก และ
เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจกล้วยไข่ ส านักส ารวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน
