Page 87 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจกล้วยไข่
P. 87
2-72
ในเรื่องของปุ๋ ยและยาฆ่าแมลง” และกล่าวไว้อีกว่า “กล้วยไข่สามารถท าผลผลิตให้ออกตลอดปีได้
โดยนับย้อนเดือนที่ผลิตออกไป 7 เดือน แล้วปลูกก็จะได้ผลผลิตกล้วยไข่ออกตลอดปี” และกล่าวถึง
บริษัทที่มารับซื้อกล้วยไข่ส่งออกประเทศจีนอีกว่า “ขณะนี้บริษัทยังมีความต้องการกล้วยไข่เพื่อการส่งออก
อีกมาก ถ้าปลูกแล้วมีการรวมกลุ่มกันทางบริษัทยินดีไปรับซื้อ” (กิติกานต์, 2555) ส าหรับราคากล้วยไข่
ที่เกษตรกรขายได้จะปรับขึ้นลงตามช่วงเวลา เช่น ช่วงฤดูกาลผลไม้ชนิดอื่นออกสู่ตลาดราคาขายกล้วยไข่ทั่วไป
กิโลกรัมละ 6-7 บาท กล้วยไข่ส่งออกกิโลกรัมละ 8-10 บาท เนื่องจากช่วงนี้ผู้ส่งออกให้ความส าคัญ
กับผลไม้ชนิดอื่นและเป็นช่วงฤดูฝนสีผิวกล้วยไข่ไม่สวยไม่นิยมส่งออก ช่วงเดือนกุมภาพันธ์
ถึงมีนาคม (ก่อนทุเรียนออกสู่ตลาด) กล้วยไข่จะขายได้ราคาดีโดยกล้วยไข่เกรด A จะขายได้ตั้งแต่
กิโลกรัมละ 40 บาท สูงสุดได้ถึงกิโลกรัมละ 60 บาท เมื่อถึงระยะที่ผลไม้ชนิดต่างๆ เข้าตลาดเป็นปริมาณมาก
ราคากล้วยไข่เกรด A หรือกล้วยไข่ส่งออก ราคาจะลดลงเหลือกิโลกรัมละ 20-25 บาท เป็นต้น ส่วน
กล้วยไข่ตกเกรด/กล้วยไข่ที่ขายในประเทศขายได้ในราคากิโลกรัมละ 10-12 บาท เป็นต้น จึงเห็นว่า
เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ควรเร่งปรับปรุงและพัฒนาการผลิตให้ได้ผลผลิตกล้วยที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน
และตรงกับความต้องการของตลาดให้มากขึ้น เพื่อการส่งออกไปประเทศจีนที่มีความต้องการสูงมาก
และรับซื้อไม่จ ากัดจ านวน (ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 2555) นอกจากนี้ ได้แก่ ฮ่องกง (เป็นตลาดหลัก
และมีก าลังซื้อสูง) ลาว เยอรมนี เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เป็นตลาดใหม่ที่มีโอกาสขยายการส่งออกได้
ในการนี้รัฐบาลต้องเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกล้วยไข่ เพื่อการส่งออก
ให้มากขึ้นอย่างจริงจัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาให้ค าแนะน าการปลูกด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม
ตามระบบปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agriculture Practice: GAP) เพื่อให้ผลผลิตเพียงพอและเป็นที่ยอมรับ
ของตลาดที่มีความต้องการสูงรวมทั้งส่งเสริมให้มีการขยายพื้นที่ปลูกกล้วยไข่ตามวิธี GAP ให้มากขึ้นด้วย
เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจกล้วยไข่ ส านักส ารวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน
