Page 217 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจกล้วยไข่

ผ-6

(2) เป็ นหน่อที่ได้จากต้นแม่สมบูรณ์ ไม่เป็ นโรคตายพราย หรือมีแมลงเข้าท าลาย

โดยเฉพาะด้วงงวง

(3) ส่วนเหง้าต้องไม่ถูกโรคแมลงท าลาย
(4) เป็นแหล่งพันธุ์ที่เชื่อถือได้ ซึ่งเกษตรกรจะต้องตรวจสอบประวัติของสวนแล้ว ไม่เคยมี

โรคระบาดมาก่อน

(5) กรณีเป็นหน่อที่มีวางจ าหน่าย ต้องพิจารณาความสดใหม่ เหง้าใหญ่ ไม่บอบช ้า

6. การปฏิบัติดูแลรักษา (กรมวิชาการเกษตร, 2551)

1) การให้น ้า

(1) ฤดูฝน เมื่อฝนทิ้งช่วงให้สังเกตหน้าดินแห้งและเริ่มแตก ควรรีบให้น ้า

(2) ฤดูแล้ง เริ่มให้น ้าตั้งแต่หมดฝน ประมาณปลายเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม
โดยใช้วิธีปล่อยให้น ้าไหลเข้าไปในแปลงย่อยเป็นแปลงๆ เมื่อดินมีความชุ่มชื้นดีแล้ว จึงให้

แปลงอื่นต่อไป

2) การให้ปุ ๋ ย
ใส่ปุ๋ ยอินทรีย์ 1 ครั้ง ปุ๋ ยคอกหรือปุ๋ ยหมักก่อนปลูกอัตรา 3-5 กิโลกรัมต่อหลุม และใส่

ปุ๋ ยเคมี 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เป็นระยะที่มีการเจริญเติบโตทางล าต้น ใส่ปุ๋ ยสูตร 20-10-10 หรือ

15-15-15 อัตรา 125-250 กรัมต่อต้นต่อครั้ง และการให้ปุ๋ ยครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 เป็นระยะที่กล้วยใกล้
ให้ผลผลิต ให้ปุ๋ ยสูตร 12-12-24 13-13-21 หรือ 14-14-21 อัตรา 125-250 กรัมต่อต้นต่อครั้ง โดยโรย

ห่างจากต้นประมาณ 30 เซนติเมตร หรือใส่ลงในหลุมลึกประมาณ 10 เซนติเมตร ทั้ง 4 ด้าน แล้ว

พรวนดินกลบ

3) ก าจัดวัรพืร

ควรก าจัดวัชพืชปี ละ 3 ครั้ง ครั้งแรกพร้อมกับการพลิกดิน ส่วนครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3

ให้พิจารณาจากปริมาณวัชพืช แต่ควรท าก่อนที่ต้นกล้วยตกเครือ

4) การตัดแต่งหน่อ

เครื่องมือที่ใช้ในการแต่งหน่อ คือ มีดยาวปลายขอ โดยเฉือนเฉียงตัดขวางล าต้นเอียงท ามุม

45 องศากับล าต้น โดยครั้งแรกเฉือนให้รอยเฉือนด้านล่างอยู่สูงจากโคนต้นประมาณ 4-5 นิ้ว หลังจากนั้น
ประมาณ 20-30 วัน จึงเฉือนหน่อครั้งที่ 2 ให้รอยเฉือนครั้งใหม่อยู่ทิศทางตรงข้ามกับรอยเฉือนครั้งก่อน

และให้รอยเฉือนมุมล่างสุดครั้งใหม่อยู่สูงจากรอยเฉือนมุมบนครั้งก่อน 4-5 นิ้ว แต่งหน่อเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจกล้วยไข่ ส านักส ารวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน