Page 29 - land use change
P. 29

19




                              2.4.1 กลุ่มชุดดินที่ 7 มีพื้นที่ประมาณ 9,269 ไร่ หรือร้อยละ 0.70 ของพื้นที่ลุ่มน้ า เป็นกลุ่มดิน
                       ที่เกิดจากวัตถุต้นก าเนิดดินพวกตะกอนล าน้ า ในบริเวณที่ราบเรียบ มีน้ าแช่ขังในช่วงฤดูฝน เป็นกลุ่ม
                       ดินลึกที่มีการระบายน้ าเลว พบในสภาพพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ เป็นดินลึกมาก เนื้อดิน
                       บนเป็นดินร่วนปนดินเหนียว ดินล่างเนื้อดินเป็นดินเหนียวความอุดมสมบูรณ์ของดินปานกลาง ดินล่าง

                       มีความจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวก 10-20 เซนติโมลต่อกิโลกรัม และความอิ่มตัวด้วยประจุบวก
                       ที่เป็นด่างมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ดินบนมีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง 5.0-6.5 ดินล่างมีค่าความ
                       เป็นกรดเป็นด่าง 6.0-7.0 การหยั่งลึกของรากในดินบนและความยากง่ายในการเขตกรรม อยู่ในระดับ
                       ปานกลาง การหยั่งลึกของรากในดินล่างอยู่ในระดับยาก

                                     ปัญหาส าคัญในการใช้ประโยชน์ที่ดินของกลุ่มชุดดินนี้ ได้แก่ โครงสร้างแน่นทึบ ดินแห้งแข็ง

                       ท าให้ไถพรวนยาก ขาดแคลนน้ า และน้ าท่วมขังในฤดูฝน ท าความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ า

                                     ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวส่วนใหญ่ใช้ท านา ให้ผลผลิตค่อนข้างสูง หรือใช้ปลูกพืชไร่
                       ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันส าปะหลัง และไม้ยืนต้น ได้แก่ ยางพารา สัก เป็นต้น

                              2.4.2 กลุ่มชุดดินที่ 16  มีพื้นที่ 29,127 ไร่ หรือร้อยละ 2.21 ของพื้นที่ลุ่มน้ า เป็นกลุ่มดิน ที่เกิด
                       จากวัตถุต้นก าเนิดดินพวกตะกอนล าน้ า ในบริเวณที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ มีน้ าแช่ขังใน
                       ช่วงฤดูฝน เป็นกลุ่มดินลึกที่มีการระบายน้ าค่อนข้างเลวหรือเลว เนื้อดินเป็นดินร่วนปนทรายแป้งหรือ

                       ดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง ดินมีสีน้ าตาลอ่อน หรือสีน้ าตาลปนเทา และมีจุดประสีน้ าตาลเข้ม สีเหลือง
                       หรือสีแดงในดินชั้นล่าง ในบางพื้นที่อาจพบก้อนสารเคมีสะสมพวกเหล็ก และแมงกานีสปะปน
                       ดินมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ า ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงกรดจัด (pH 6.0 - 8.0)
                                      ปัญหาส าคัญในการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่ หน้าดินแน่นทึบ ความอุดมสมบูรณ์ต่ า

                       บางพื้นที่ดินเป็นกรดจัดมาก ขาดแคลนน้ า และน้ าท่วมขังในฤดูฝน ท าความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ า
                                      ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวใช้ท านาเป็นหลัก รองลงมาใช้ปลูกพืชไร่ และไม้ยืนต้น
                       ในฤดูแล้งบริเวณใกล้แหล่งน้ าใช้ปลูก พืชผักต่าง ๆ หรือพืชไร่บางชนิด ถ้ามีการชลประทานใช้ท านา

                       ได้ 2 ครั้ง ในรอบปี
                              2.4.3 กลุ่มชุดดินที่ 18  มีพื้นที่ 6,223 ไร่ หรือร้อยละ 0.47 ของพื้นที่ลุ่มน้ า เป็นกลุ่มดิน
                       ที่เกิดจากการสลายตัวผุพังอยู่กับที่ หรือถูกเคลื่อนย้ายมาในระยะทางไม่ไกลนักของหินเนื้อหยาบ
                       หรือจากวัตถุต้นก าเนิดดินพวกตะกอนล าน้ าในบริเวณที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ มีน้ าแช่ขัง
                       ในช่วงฤดูฝน เป็นกลุ่มดินลึกที่มีการระบายน้ าส่วนใหญ่ค่อนข้างเลว เนื้อดินบนเป็นพวกดินร่วนปน

                       ทรายหรือดินร่วน ดินล่างเป็นดินร่วนเหนียวปนทราย หรือดินร่วนเหนียวมีสีน้ าตาลอ่อนถึงสีเทา
                       พบจุดประสีน้ าตาล สีเหลือง หรือสีแดงปะปน บางแห่งอาจพบศิลาแลงอ่อนหรือก้อนเคมีสะสมพวก
                       เหล็กและแมงกานีสในดินชั้นล่าง ดินมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติค่อนข้างต่ า ดินชั้นบน

                       มักมีปฏิกิริยาดินเป็นกรดเล็กน้อยถึงเป็นกลาง (pH 6.5 - 7.0)
                                     ปัญหาส าคัญในการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่ ความอุดมสมบูรณ์ต่ า บางพื้นที่ขาดแคลน
                       น้ านาน และน้ าท่วมขังในฤดูฝน ท าความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ า
                                    ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวส่วนใหญ่ใช้ปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รองลงมาใช้

                       ท านา และปลูกไม้ยืนต้นและปลูกพืชล้มลุกในฤดูแล้ง
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34