Page 31 - รายงานสำรวจทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานี
P. 31

3-5





                  รวมถึงปองกันการรุกล้ำเขามาในแผนดินของน้ำทะเล อีกทั้ง ยังเปนพื้นที่ซึ่งสามารถดักจับตะกอนและแร

                  ธาตุ บำบัดน้ำเสียและสารพิษตาง ๆ อีกดวย ซึ่งสำหรับมนุษย พื้นที่ชุมน้ำยังมีความสำคัญตอการ
                  ทองเที่ยว ประวัติศาสตร วัฒนธรรม ประเพณีทองถิ่น และยังเปนแหลงการเรียนรูการศึกษาวิจัยทาง
                                                                                   ่
                                                                              ิ
                  ธรรมชาติที่สำคัญตอวิถีชีวิต (สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาตและสิงแวดลอม., 2566)
                                                    ี
                      3.1.14  ความหลากหลายทางชวภาพ
                                                                                                      ั
                       ความหลากหลายทางชีวภาพ หมายถึง การมีสิ่งมีชีวิตนานาชนิด นานาพันธุในระบบนิเวศอน
                  เปนแหลงที่อยูอาศัย ซึ่งมีมากมายและแตกตางกันทั่วโลก หรืองายๆ คือ การที่มีชนิดพันธุ (species)
                                                                                         ี
                  สายพันธุ (genetic) และระบบนิเวศ (ecosystem) ที่แตกตางหลากหลายบนโลก ที่มความหลากหลาย
                  ทางชีวภาพมีอยูระหวางสายพันธุ ระหวางชนิดพันธุ และระหวางระบบนิเวศ
                       ความหลากหลายทางชีวภาพระหวางสายพันธุ คือ ความแตกตางระหวางพันธุพืชและสัตวตางๆ
                  ที่ใชในการเกษตร ความแตกตางหลากหลายระหวางสายพันธุ ทำใหสามารถเลือกบริโภคขาวจาว หรือ
                  ขาวเหนียว ตามที่ตองการได หากไมมีความหลากหลายของสายพันธุตางๆ แลว อาจจะตองรับประทาน

                                                                        
                  สมตำปูเค็มกับขาวจาวก็เปนได ความแตกตางที่มีอยูในสายพันธุตางๆ ยังชวยใหเกษตรกรสามารถเลือก
                  สายพันธุปศุสัตว และสัตวปก เพื่อใหเหมาะสมตามความตองการของตลาดได เชน ไกพันธุเนื้อ ไกพันธุ 
                  ไขดก วัวพันธุนม และวัวพันธุเนื้อ เปนตน
                       ความหลากหลายระหวางระบบนิเวศ สามารถเห็นไดจากความแตกตางระหวางระบบนิเวศ

                  ประเภทตางๆ เชน ปาดงดิบ ทุงหญา ปาชายเลน ทะเลสาบ บึง หนอง ชายหาด แนวปะการัง ตลอดจน
                  ระบบนิเวศที่มนุษยสรางขึ้น เชน ทงนา อางเก็บน้ำ หรือแมกระทั้งชุมชนเมอง ของเราเอง ในระบบนิเวศ
                                                                               ื
                                               ุ
                  เหลานี้ สิ่งมีชีวิตก็ตางชนิดกัน และมีสภาพการอยูอาศัยแตกตางกัน ทำใหโลกมีถิ่นที่อยูอาศัยเหมาะสม
                  สำหรับสิ่งมีชีวิตชนิดตางๆ ระบบนิเวศแตละประเภทใหประโยชนแกการดำรงชีวิตของมนุษยแตกตางกน
                                                                                                      ั
                                                                          
                  หรืออีกนัยหนึ่งให ‘บริการทางสิ่งแวดลอม’ (environmental service) ตางกันดวย อาทิ ปาไมทำ
                  หนาที่ดูดซับน้ำ ไมใหเกิดน้ำทวมและการพังทลายของดิน สวนปาชายเลนทำหนาที่เก็บตะกอนไมใหไป
                  ทบถมจนบริเวณปากอาวตื้นเขิน ตลอดจนปองกันการกัดเซาะบริเวณชายฝงจากกระแสลมและคลื่นดวย
                      3.1.15  การใชที่ดิน (Land use) หมายถึง การใชที่ดินเปนทรัพยากรขั้นพื้นฐานในการผลิต

                                                                                               ิ
                  อาหาร เครื่องนุงหม ยารักษาโรค ตลอดจนใชเปนทพักผอน ที่อยูอาศัย กักเก็บน้ำ หรือใชในกจการอนๆ
                                                            ี่
                                                                                                    ื่
                                                                             ่
                                                                                                  ี
                                                                                                    ิ
                  ที่มีความสำคัญตอชีวิตความเปนอยูของมวลมนุษย ทั้งนี้รวมถึงการใชทีดินในปจจุบันและการใชท่ดนใน
                  อนาคตดวย บัณฑิต (2535) ใหความหมายไววา การใชที่ดินเปนกิจกรรมของมนุษยบนพื้นดินและสิ่งท ่ ี
                  เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ทั้งนี้รวมถึงสิ่งปกคลุมดินเพอที่จะสามารถจัดจำแนกพนทไดทงหมด โดยทวไปแลว
                                                                                      ั้
                                                                                                ั่
                                                                                ื้
                                                          ื่
                                                                                  ี่
                  ลำดับชั้นและสิ่งปกคลุมดินมีดวยกัน 3 ลักษณะคือ โครงสรางทางกายภาพทมนุษยสรางขน
                                                                                                      ึ
                                                                                         ่
                                                                                         ี
                                                                                                      ้
                  ปรากฏการณทางชีวภาพและการพัฒนาทุกประเภท สถิตย (2521) ไดกลาวไววา การใชที่ดิน หมายถง
                                                                                                      ึ
                                                                                                ิ
                          ิ
                                          
                         ่
                  การนำทดนมาใชบำบัดความตองการของมนุษยในดานตางๆ เชน เกษตรกรรม อตสาหกรรม พาณชยกรรม
                         ี
                                                           
                                                               
                                                                                  ุ
                                                                                                  ี่
                  และที่อยูอาศัย เปนตน การเปลี่ยนแปลงการใชที่ดิน หมายถึง การเปลี่ยนแปลงการใชประโยชนทดินวา
                  เปนไปในรูปใด เชน การทำเกษตรกรรม เหมืองแร การกอสรางอาคารที่อยูอาศัย เปนตน
                      3.1.16  การพัฒนาที่ดิน (Land development) มีความหมายวา การกระทำใดๆ ตอดินหรือ
                  ที่ดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคณภาพของดินหรือทดินหรือเพอเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรใหสูงขนและ
                                                                     ื่
                                                             ี่
                                            ุ
                                                                                                  ึ้
                                                  ิ
                  หมายความรวมถึงการปรับปรุงบำรุงดนหรือที่ดินที่ขาดความอุดมสมบูรณตามธรรมชาต หรือขาดความ
                                                                                           ิ
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36