Page 104 - Phetchaburi-Prachuap Khirikhan Basin
P. 104

3-70





                  หนวยที่ดินตาง ๆ คือ หนวยที่ดินที่ 12 12I 12M2 และ12IM2 มีเนื้อที่ 107,799 ไร หรือรอยละ 1.30

                  ของพื้นที่ลุมน้ำ
                          (11) กลุมชุดดินที่เปนดินเลนชายทะเล เปนกลุมดินที่เกิดจากวัตถุตนกำเนิดดินพวกตะกอนน้ำทะเล
                  ในบริเวณที่ราบน้ำทะเลทวมถึงและบริเวณชะวากทะเล มีสภาพพื้นที่ราบเรียบหรือคอนขางราบเรียบ

                  เปนดินลึกที่มีการระบายน้ำเลวมาก เมื่อมีการดัดแปลงพื้นที่โดยการยกรองปลูกพืช จะมีการระบายน้ำ
                  ดีปานกลาง เปนดินเลนเละ ที่มีเนื้อดินเปนดินเหนียวหรือหรือดินรวนเหนียวปนทรายแปง
                  ดินบนมีสีดำปนเทา  มีจุดประสีน้ำตาลเล็กนอย สวนดินลางเปนดินเลนสีเทาแกหรือสีเทาปนเขียว และ
                  พบเศษรากพืชปะปนในดินเปนจำนวนมาก เปนดินที่มีสารประกอบกำมะถันปะปนอยูมาก

                  ตามปกติเมื่อดินจะเปนกลางหรือเปนดางแตเมื่อมีการระบายน้ำออกไปหรือทำใหดินแหง สารประกอบ
                  กำมะถันจะแปรสภาพปลดปลอยกรดกำมะถันออกมา ทำใหดินเปนกรดจัดมาก ดินกลุมนี้จัดเปนดินเค็ม
                  ที่มีกรดแฝงอยู มีความอุดมสมบูรณตามธรรมชาติปานกลาง ปฏิกิริยาดินเปนกลางถึงดางปานกลาง
                  มีคาความเปนกรด-ดางดินบนอยูระหวาง 6.0-8.0 คาความจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวกสูง

                  และความอิ่มตัวดวยประจุบวกที่เปนดางสูง คาการนำไฟฟาของดินสูง ตามปกติบริเวณที่พบดินเหลานี้
                  มักมีปาชายเลนขึ้นปกคลุม แตในปจจุบันบริเวณดังกลาวใชทำนา บางแหงมีการยกรองปลูกปาลมน้ำมัน
                  และยางพารา หากไมมีการจัดการที่เหมาะสมผลผลิตมักลดลงอยางรวดเร็ว เนื่องจากการเกิดกรดและ
                  การเกิดสารพิษบางอยาง เชน กาซไขเนา เปนตน แบงเปนหนวยที่ดินตาง ๆ คือหนวยที่ดินที่ 13 และ

                  13M2 มีเนื้อที่ 6,434 ไร หรือรอยละ 0.08 ของพื้นที่ลุมน้ำ
                          (12) กลุมชุดดินที่เปนดินเปรี้ยวจัดลึกปานกลาง เปนกลุมดินที่เกิดจากวัตถุตนกำเนิดดิน
                  พวกตะกอนผสมของตะกอนลำน้ำและตะกอนน้ำทะเลแลวพัฒนาในสภาพน้ำกรอย ในบริเวณที่ลุมต่ำ
                  ชายฝงทะเล หรือบริเวณพื้นที่พรุ มีน้ำแชขังในชวงฤดูฝน เปนกลุมดินลึกที่มีการระบายน้ำเลวมาก

                  มีเนื้อดินเปนดินเหนียว ดินบนมีสีดำหรือสีเทาปนดำ ซึ่งมีปริมาณอินทรียวัตถุสูง ดินลางมีสีเทา
                  มีจุดประสีเหลืองและสีน้ำตาลปะปนอยูเล็กนอย ดินชวงลางลึกกวา 80 เซนติเมตร มีลักษณะเปนดินเลน
                  สีเทาปนเขียวที่มีสารประกอบกำมะถันมาก ดินมีความอุดมสมบูรณตามธรรมชาติปานกลาง ปฏิกิริยาดิน
                  เปนกรดรุนแรงมาก มีคาความเปนกรดเปนดางนอยกวา 4.5 ปจจุบันบริเวณดังกลาวสวนใหญเปนปาเสม็ด

                  มีวัชพืชตาง ๆ เชน กก กระจูด และหญาชันกาศ เปนพืชพื้นลาง บางแหงใชทำนาแตผลผลิตต่ำ
                  หากไมมีการใชปูนเพื่อแกไขความเปนกรดของดิน พืชที่ปลูกมักไมคอยไดผล แบงเปนหนวยที่ดินตาง ๆ
                  คือ หนวยที่ดินที่ 14 และ14M2 มีเนื้อที่ 2,618 ไร หรือรอยละ 0.03 ของพื้นที่ลุมน้ำ

                          (13) กลุมชุดดินที่มีเนื้อดินเปนพวกดินรวนเหนียวหรือดินรวนเหนียวปนทรายแปง
                  ที่เกิดจากวัตถุตนกำเนิดดินพวกตะกอนลำน้ำ พบบริเวณที่ราบลุมตะกอนน้ำพา มีสภาพพื้นที่ราบเรียบ
                  หรือคอนขางราบ มีน้ำแชขังในชวงฤดูฝน การระบายน้ำปานกลางถึงคอนขางเลว คาความเปนกรด-ดาง
                  ดินบนอยูระหวาง 5.5-6.5 คาความประจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวกปานกลางถึงคอนขางสูง
                  และความอิ่มตัวดวยประจุบวกที่เปนดางคอนขางต่ำถึงปานกลาง คาการนำไฟฟาของดินต่ำ

                  ความอุดมสมบูรณตามธรรมชาติต่ำ บางพื้นที่พบในพื้นที่คอนขางดอน ทำใหเสี่ยงตอการขาดแคลนน้ำ
                  การใชประโยชนที่ดินสวนใหญใชทำนาในฤดูแลงบริเวณใกลแหลงน้ำใชปลูกยาสูบ พืชผักตาง ๆ
                  หรือพืชไรบางชนิด ถามีระบบชลประทานใชทำนาได 2 ครั้ง ในรอบป แบงเปนหนวยที่ดินตาง ๆ คือ

                  หนวยที่ดินที่ 15 และ15BM2 มีเนื้อที่ 2,875 ไร หรือรอยละ 0.03 ของพื้นที่ลุมน้ำ





                                                                         กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน
   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109