Page 115 - Phetchaburi
P. 115

3-39





                            2) ทรัพยากรดินมีปญหาทางการเกษตร

                              จากการวิเคราะหสถานภาพทรัพยากรดินจังหวัดตาก พบสภาพทรัพยากรดินที่มีปญหา ดังนี้
                                1.1   ดินกรด มีเนื้อที่ 367,261 ไร หรือรอยละ 9.44 ของเนื้อที่จังหวัด แบงเปนในที่ลุม
                  มีเนื้อที่ 11,115 ไร หรือรอยละ 0.29 ของเนื้อที่จังหวัด และในที่ดอน มีเนื้อที่ 356,146 ไร หรือรอยละ
                  9.15 ของเนื้อที่จังหวัด พบในสภาพพื้นที่เปนที่ราบเรียบหรือคอนขางราบเรียบถึงเนินเขา การระบายน้ำเลว
                  ถึงดี ดินลึกปานกลางถึงลึกมาก เนื้อดินบนเปนดินรวนปนดินเหนียว ดินรวนปนทราย ปฏิกิริยาดินเปนกรด

                  จัดมากถึงเปนกลาง เนื้อดินลางเปนดินเหนียว ดินรวนปนดินเหนียว ดินรวนเหนียวปนทราย ดินรวนปนทราย
                  ดินรวนเหนียวปนทรายปนกรวดมาก ปฏิกิริยาดินเปนกรดรุนแรงมากถึงเปนกลาง ดินมีความอุดมสมบูรณ
                  ตามธรรมชาติต่ำถึงปานกลาง

                                แนวทางในการจัดการดินที่เปนกรด ควรจะใชหลายมาตรการประกอบกัน คือ
                                  -  ลดการใชปุยเคมีที่มากเกินความตองการของพืช โดยเฉพาะปุยไนโตรเจน (ยูเรีย)
                                  -  ในกรณีที่มีน้ำเพียงพอ ควรระบายน้ำที่มีความเปนกรดสูงออกจากแปลง
                  แลวขังน้ำใหมที่มีสภาพความเปนกรดนอยกวาแทน

                                  -  การปรับระดับผิวหนาดินใหมีความลาดเอียงพอที่จะใหน้ำไหลออกสูคลอง
                  ระบายน้ำได และจัดรูปตกแตงแปลงนาและคันนาใหม เพื่อใหสามารถเก็บกักน้ำและระบายน้ำออกได
                  ตามตองการ
                                  -  การยกรองปลูกพืช เปนวิธีการใชสำหรับการปลูกพืชไร ผัก ผลไม หรือไมยืนตน

                  ที่ใหผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูง
                                  -  ปรับปรุงบำรุงดินใหอุดมสมบูรณทำไดหลายวิธีดังนี้ เชน การใชปุยคอก
                  การใชปุยหมัก การใชปุยพืชสด สวนใหญจะใชพืชตระกูลถั่ว เพราะใหธาตุไนโตรเจนสูง พืชที่นิยมใชเปน
                  ปุยพืชสด ไดแก โสนอัฟริกัน โสนอินเดีย ปอเทือง ถั่วเขียว ถั่วพรา ถั่วพุม ถั่วมะแฮะ กระถินยักษ

                  และแหนแดง เปนตน
                                  -  ปลูกพืชหมุนเวียน โดยปลูกพืชหลายชนิดหมุนเวียนในพื้นที่เดียวกัน
                  ควรมีพืชตระกูลถั่ว ซึ่งมีคุณสมบัติบำรุงดินรวมอยูดวยเพื่อใหการใชธาตุอาหารจากดินเปนไปอยางมี

                  ประสิทธิภาพ ลดการระบาดของศัตรูพืช ตลอดจนชวยใหชั้นดินมีเวลาพักตัวในกรณีพืชที่ปลูกมีระบบ
                  รากลึกแตกตางกัน
                                1.2  ดินเค็มชายทะเล มีเนื้อที่ 90,305 ไร หรือรอยละ 2.33 ของเนื้อที่จังหวัด
                  เกิดจากอิทธิพลของน้ำทะเลทวมถึงหรือเคยทวมมากอน บริเวณที่มีสภาพพื้นที่เปนที่ลุม น้ำทะเลทวมถึง
                  วัตถุตนกำเนินดินเปนตะกอนน้ำทะเลและน้ำกรอย ดินบริเวณนี้จะมีความชื้นของดินสูงและมีความเค็มสูง

                  พืชพรรณที่ขึ้นในบริเวณนี้เปนไมชายเลน ซึ่งทนเค็มไดดี เชน โกงกาง แสม และลำพู เปนตน และบริเวณ
                  ที่น้ำทะเลเคยทวมถึงมากอน เกิดจากตะกอนน้ำทะเลและตะกอนน้ำกรอย เปนดินมีความเหนียวสูง
                  บางแหงอาจพบชั้นทรายและเปลือกหอยในดินชั้นลาง

                                แนวทางในการจัดการดินเค็มชายทะเล แบงเปน 2 กรณี คือ
                                  1) ปรับปรุงเพื่อการเกษตรกรรม สามารถทำไดโดย
                                    - การขุดคลองระบายน้ำใหเพียงพอ คลองควรมีความลึก 1.50 เมตร สำหรับ
                  ไมยืนตน และความลึก 50 เซนติเมตร สำหรับการปลูกพืชผัก
   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120