Page 94 - Nongbualamphu
P. 94
4-22
ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาข้อมูลทางกายภาพด้านสมบัติดิน การศึกษาทบทวนข้อมูลเชิงเอกสาร และ
การส ารวจด้านเศรษฐกิจและสังคมจากการสัมภาษณ์ ซึ่งการวิเคราะห์ DPSIR แต่ละตัวแปรและ
ปัจจัย ได้ผลดังต่อไปนี้ (รูปที่ 4-1)
4.3.1 แรงขับเคลื่อน (Driving Forces: D): ต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลง
1) การเพิ่มขึ้นของจ านวนประชากร ท าให้ความต้องการที่ดินเพิ่มสูงขึ้น
2) สภาพภูมิศาสตร์ ลักษณะทางกายภาพของดินและที่ดิน ปัญหาทรัพยากรดินที่
เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งไม่เอื้อต่อการด าเนินกิจกรรมทางการเกษตร
4.3.2 แรงกดดัน (Pressures: P)
1) สภาพปัญหาทางธรรมชาติของดินเป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มผลผลิต ส่งผลให้เกิด
ข้อจ ากัดด้านรายได้และการลงทุน
2) การขาดเงินทุนและรายได้ในการพัฒนาปรับปรุงบ ารุงดินเพื่อเกษตรกรรม
3) การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรเป็นไปตามสภาพซึ่งมีประสิทธิภาพต่ า ได้ผลผลิต
น้อยและคุณภาพต่ า ไม่สามารถผลิตเพื่อแข่งขันทางการค้าได้
4.3.3 สภาวะ (State: S)
1) เกษตรกรที่ขาดรายได้และเงินทุนจะเข้าสู่ระบบจ านองหรือขายฝากที่ดิน ที่สุ่ม
เสี่ยงต่อการขาดสิทธิครอบครองที่ดิน ส่วนเกษตรกรที่ไร้ที่ดินท ากินจะขาดอ านาจต่อรองเพื่อ
สามารถเข้าถึงสิทธิในที่ดินจะใช้แรงงานเข้าแลกกับสิทธิการท าเกษตรเพื่อยังชีพโดยโดยไม่ได้รับ
รายได้เป็นค่าตอบแทน
2) เกษตรกรมีการเร่งผลผลิตโดยใช้ปุ๋ยเคมีที่ไม่สอดคล้องกับปริมาณธาตุอาหารในดิน การ
ใช้สารเคมีฉีดพ่นก าจัดวัชพืช และยาปราบศัตรูพืช โรค และแมลง ขาดการปรับปรุงบ ารุงดินและการ
จัดท าระบบอนุรักษ์ดินและน้ าที่ถูกต้องเหมาะสม เป็นปัจจัยเร่งให้ดินเสื่อมโทรม
3) เกษตรกรเข้าร่วมโครงการที่สนับสนุนโดยภาคเอกชนในการรับปลูกไม้ผลในพื้นที่
เกษตรกร ซึ่งมีตลาดรับซื้อแน่นอน และแบ่งรายได้ตามข้อตกลงร่วมกัน
4) ภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความแปรปรวนของฤดูกาล เกิดวิกฤตภัย
แล้ง และภัยพิบัติธรรมชาติ ไฟป่า น้ าท่วม ดินถล่ม ซ้ าเติมต่อสภาพการเกษตรระดับพื้นที่
4.3.4 ผลกระทบ (Impacts: I)
1) เกษตรกรที่เข้าร่วมระบบจ านองหรือขายฝาก มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียกรรมสิทธิ
ที่ดินท ากิน ตอกย้ าความยากจนซ้ าซาก
2) เกษตรกรไร้ที่ดินท ากินและอยู่ในสภาพใช้แรงงานเข้าแลกกับสิทธิการท าเกษตร
เพื่อยังชีพโดยโดยไม่ได้รับรายได้เป็นค่าตอบแทน มีแนวโน้มจะบุกรุกแผ้วถางเขตป่าเพื่อท า
การเกษตรโดยผิดกฎหมาย